7 มีนาคม 2565 นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผย ศูนย์แถลงข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ระบุว่า โควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน การระบาดครอบคลุมเกือบ 100% แล้ว กระจายอยู่ทั่วทุกจังหวัด โดยพบสายพันธุ์เดลตาเพียง 7 รายเท่านั้น พบ เป็นสายพันธุ์ BA.2 ร้อยละ 52 ส่วนที่เหลือเป็น BA.1 ถือว่า BA.2 มีอำนาจการแพร่เร็วกว่า BA.1 และสัปดาห์หน้าคาดว่า BA.2 จะแทน BA.1
“ ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก ยังมีข้อมูลไม่เพียงพอถึงอัตราการแพร่เร็ว ของ BA.2 ที่ชัดเจน แต่ความรุนแรง ยังไม่ได้มีความแตกต่างจาก BA.1 ”
นายแพทย์ศุภกิจ ระบุอีกว่า ส่วนสัดส่วนของกลุ่มตัวอย่างที่สุ่มตรวจสายพันธุ์ โดยการแยกสายพันธุ์ย่อย โอมิครอน ระหว่างวันที่ 26 ก.พ. ถึง 4 มี.ค. พบว่า สายพันธุ์ BA.2 และ สายพันธุ์ BA.1 มีความสามารถในการแพร่เชื้อ พอๆกัน โดยอัตราการแพร่เชื้อสายพันธุ์ BA.2 อยู่ที่ ร้อยละ28.57
“ สายพันธุ์โอมิครอน สามารถแพร่เร็วกว่าสายพันธุ์ปกติ 1.4 เท่า ซึ่งหากมีการติดเชื้อในครัวเรือนสามารถแพร่กระจายได้สูงกว่า BA.1 โดย BA.2 แพร่ได้ ร้อยละ 39 ส่วน BA.1 แพร่ได้ ร้อยละ 29 ขอให้ระมัดระวังในการเข้มงวด ในการป้องกันการรับเชื้อ ”
สำหรับกรณีของวัคซีนโควิด พบว่า โควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน มีการดื้อต่อวัคซีนเล็กน้อย แต่ไม่มีนัยยะสำคัญทางสถิติ ส่วนเรื่องของการใช้ยาจากภูมิที่สังเคราะห์ หรือโมโนโคลนอลแอนติบอดี สามารถรักษาสายพันธ์ เดลต้าได้ แต่ไม่สามารถรักษาโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอนได้
นายแพทย์ศุภกิจ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ พบโควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน BA.2 เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนความรุนแรงไม่ได้มากส่วน สายพันธุ์ย่อย BA.3 ยังไม่พบในไทย
ส่วนกรณี ที่หลายคน คิดว่าเมื่อติดเชื้อโควิด-19แล้ว จะเกิดมีภูมิคุ้มกันธรรมชาตินั้น นายแพทย์ศุภกิจ อธิบายว่า หากเป็นการติดเชื้อในช่วงสายพันธุ์เดลตาระบาดอยู่ ภูมินั้นก็อาจจะสามารถป้องกันได้ แต่ตอนนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอน ข้อมูลเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคุณสมบัติของโอมิครอนหลบภูมิได้ ซึ่งผู้ป่วยที่เคยติดเชื้อโควิด-19 ในช่วงการระบาดเดลตา ก็สามารถที่จะติดเชื้อโควิด-19 ในสายพันธุ์โอมิครอนได้อีก แต่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิด-19ในช่วงโอมิครอน ยังมีภูมิตามธรรมชาติที่ป้องกันการติดเชื้อการติดเชื้อโอมิครอนซ้ำได้
แม้สายพันธุ์ BA.2 จะดื้อต่อวัคซีนโควิดอยู่บ้าง แต่ยังไม่มีข้อมูลอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงโดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 หรือได้รับวัคซีนเพียง 2 เข็ม ให้รีบมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพื่อให้ทันต่อช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง
อีกทั้งยังพบอีกว่า BA.2 มีความสามารถในการหลบภูมิยาบางชนิดได้คือ ยาโมโนโคนอล แอนติบอดี้ สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด- 19 แต่ยาดังกล่าว เป็นยาทางเลือกใช้เฉพาะผู้ป่วยอาการหนัก เบื้องต้นไม่ได้มีการใช้ยาดังกล่าวอย่างแพร่หลาย ในประเทศ
ส่วนอัตราผู้เสียชีวิตที่สูง อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า มาจากอัตราการติดเชื้อที่สูงติดต่อกัน ทำให้ส่งผลต่อ อัตราการติดเชื้อผู้เสียชีวิต ส่วนใหญ่ ยังคงยืนยัน ว่าเป็นกลุ่มผู้สูงอายุมีโรคประจำตัวและกลุ่มที่ยังรับวัคซีนโควิด-19 ไม่ครบ