svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พีระพันธุ์"โพสต์ขอบคุณชายผู้ปิดทองหลังพระสู้คดีค่าโง่โฮปเวลล์

05 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" โพสต์ขอบคุณคนตัวเล็ก ชายผู้ปิดทองหลังพระ กับความสำเร็จในการต่อสู้คดี "ค่าโง่โฮปเวลล์"

5 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพีระพันธ์ุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้

 

ปิดทองหลังพระ

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจและยินดีกับผลงานคดี "ค่าโง่โฮปเวลล์" ที่คาราคาซังมายาวนานกว่าสามสิบปี

 

กว่าจะมาถึงวันนี้ ไม่ง่ายเลยครับ ผมเองต้องใช้เวลาเกือบทั้งหมดตั้งแต่กลางปี 62 เหนื่อยไปกับการสะสาง ตรวจสอบ ตรวจทาน และเรียบเรียงเอกสารต่างๆ ที่หมักหมมมานานกว่าสามสิบปี เปลี่ยนมาหลายรัฐบาล จนขึ้นใจทุกขั้นตอน  

 

เรื่องนี้เอาจริงๆ แล้วต้องมีคนรับผิดอีกหลายคน แม้บางคนบางรายการอาจจะขาดอายุความในการเอาผิด แต่ก็สมควรที่จะต้องกระชากหน้ากากให้รู้ว่าตลอดสามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ใครเป็นใคร ใครทำอะไรไว้บ้าง เราถึงต้องมาตามแก้เป็นลิงแก้แหในวันนี้

 

แม้วันนี้เอง คดีก็ยังไม่จบนะครับ ยังต้องทำอีกหลายเรื่อง

 

เปิดเผยได้อีกเรื่องคือขณะนี้ เรากำลังฟ้องเป็นคดีต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้พิพากษาว่าการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่เกี่ยวข้องกับคดีโฮปเวลล์เป็นโมฆะตามกฎหมาย เท่ากับว่าบริษัทนี้ไม่เคยมีตัวตนในโลกนี้ ผลคือการใดๆ ที่ทำไปในนามบริษัทนี้ เป็นโมฆะทั้งหมดไปด้วย

 

 

รออีกนิดนะครับ

 

ตอนนี้ก็ถึงตาที่ผมจะต้องขอบคุณและชื่นชมคนๆ หนึ่งบ้าง คนที่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครรู้จัก เป็นคนเล็กๆ ที่ทำงานเงียบๆ ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวหรือเป็นข่าว คนๆ นี้เป็นคนที่ผมไม่คิดว่าจะมีในโลก ผมอยากได้คนแบบนี้มาช่วยงานนานมาแล้ว นานมาก คือ ตั้งแต่ผมเริ่มทำงานใหม่ๆ เมื่อสี่สิบปีก่อน แต่ไม่เคยหาได้ ผมเลยต้องทำงานทุกอย่างด้วยตัวเองอย่างแสนเหน็ดเหนื่อยตามลำพังตลอดมา จนมาทำเรื่องโฮปเวลล์

 

ผมโชคดีอย่างยิ่งที่ได้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทยคนหนึ่งมาช่วยงาน คนๆ นี้ชื่อ "สุทธิรักษ์ ยิ้มยัง" ชื่อเล่นว่า "ยิ้ม" 

 

"ยิ้ม" เป็นพนักงานการรถไฟตำแหน่งอนาบาล เรียกง่ายๆ ว่านิติกร ยิ้มเป็นคนเดียวที่ช่วยงานเรื่องนี้ผมมาตั้งแต่ต้น 

 

งานชิ้นนี้ถ้าไม่ได้ยิ้มก็อาจไม่มีวันนี้ เพราะผมอาจทำงานไม่เสร็จตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย ผลคือ "ยื่นเรื่องไม่ทัน" หรือไม่อย่างนั้น ผมคงไม่ต้องนอนสามสี่วันติดกันในแต่ละเรื่อง เพราะเอกสารและข้อมูลเยอะมาก กว่าจะเขียนแต่ละเรื่องเสร็จใช้เวลามากและต้องค้นเอกสารและข้อมูลแบบท่วมหัว 

 

ปรากฏว่ายิ้มจำได้หมดทุกเรื่อง 

 

ไม่ว่าผมจะติดขัดหรือสงสัยข้อมูลอะไรตรงไหน ถามปั๊บยิ้มตอบได้ทันทีทุกเรื่อง ทุกขั้นตอน ผมสามารถยกร่างเรื่องต่างๆ ได้โดยเว้นว่างข้อความ หรือข้อมูลที่ยังนึกไม่ออกในเวลานั้นไว้ได้ โดยไม่ต้องหยุดพักไปค้นข้อมูลก่อน เสร็จแล้วก็ส่งให้ยิ้มช่วยเติมความให้เต็มได้อย่างถูกต้อง บางเรื่องผมบอกแนวทาง บอกประเด็นให้ยิ้มยกร่างเบื้องต้นมาก่อน เพื่อที่ผมจะได้ไปทำงานอื่นได้ แล้วค่อยกลับมาปรับนิดหน่อยก็เสร็จ ทำให้ผมสามารถเดินหน้าเตรียมการเรื่องอื่นๆ ได้พร้อมๆ กันมากขึ้น

 

 

ผมถามยิ้มว่าทำไมตอบผมได้หมด เขาบอกว่าเขาอ่านและเตรียมการล่วงหน้าไว้หมดนานมาแล้ว 

 

ผมหาแบบนี้มานานครับเพิ่งจะเจอ ยิ้มเขาบอกผมว่าทุกวันนี้เขาเป็นห่วงการรถไฟและบ้านเมืองกับปัญหาคดีนี้มาก ก่อนจะมารู้จักมาทำงานกับผม เขาได้ศึกษาค้นคว้าเตรียมข้อมูลตลอดมา แม้ไม่รู้ว่าจะได้ใช้หรือไม่ เขาบอกว่าเขาอยากทำด้วยใจจริงไม่ใช่เพราะตำแหน่งหน้าที่

 

ทำงานกันมาหลายปีผมก็เห็นยิ้มอยู่ที่เดิมตำแหน่งเดิม ทั้งๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาโฮปเวลล์ให้การรถไฟต้นสังกัด และช่วยผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ให้คนทั้งประเทศมานาน ผมถามยิ้มว่าที่ทำงานไม่มีตำแหน่งว่างที่จะโยกย้ายสูงขึ้นเลยหรือ เขาบอกว่ามี หัวหน้าเขาเพิ่งจะเกษียณพอดี 

 

ผมบอกว่าคิวคุณขึ้นตำแหน่งนี้ได้ไหม เขาบอกว่าได้แต่ขอให้อีกคนหนึ่งขึ้นจะดีกว่า เพราะหากต่อไปต้องสู้คดีโฮปเวลล์ในศาลแล้ว อีกคนหนึ่งจะทำงานได้ดีกว่าเขา ผมบอกว่าคุณลองไปคิดดูว่า คุณจะไปไหนได้บ้าง เขากลับมาบอกผมในเวลาต่อมาว่าคิดได้แล้วว่าจะขอไปอยู่แผนกพยาบาล 

 

ผมงงมากว่าจะไปทำอะไรที่แผนกพยาบาล คำตอบคือ เขาคิดว่าที่แผนกพยาบาลไม่มีงานอะไรมากเขาจะได้ใช้เวลาเตรียมข้อมูลต่างๆ เรื่องโฮปเวลล์มาช่วยผมได้เต็มที่ ถ้ายังอยู่ที่เดิมก็ต้องทำงานอื่นด้วย ถ้าเขาทำเรื่องนี้เรื่องเดียวก็ต้องกินแรงเพื่อนให้ทำเรื่องอื่นแทนเขา 

 

ผมถามว่าไปอยู่แผนกพยาบาลแล้วต่อไปจะกลับไปแผนกอื่นได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร ผมบอกว่าแล้วมันจะก้าวหน้าในอาชีพได้อย่างไร เขาบอกว่าไม่เป็นไร 

 

ผมถามว่าคุณคิดอะไรของคุณ เขาบอกว่าเขาคิดเพียงว่าขอให้เขามีเวลาทำงานเรื่องโฮปเวลล์ให้สำเร็จแค่นั้น เขาก็พอใจแล้ว แม้เขาต้องหยุดชีวิตราชการไว้ที่แผนกพยาบาลเขาก็ยอม

 

เชื่อไหมครับว่าคนแบบนี้ยังมีในโลกจริงๆ

 

เวลายิ้มมารายงานเรื่องต่างๆ กับผม จะมีเพื่อนมาด้วยคนหนึ่ง แรกๆ ผมคิดว่าเป็นทีมงานของเขา แต่สังเกตุว่านายคนนี้ไม่ค่อยพูดจาอะไร ผมเลยถามว่าคนนี้เป็นใคร คำตอบคือเป็นเพื่อนที่ขับรถพาเขามาหาผม เพราะเขาขับรถไม่เป็นเวลาไปไหนมาไหน เขาใช้รถเมล์ แต่มาหาผมต้องรีบกลัวผมรอนาน เลยวานเพื่อนให้ขับรถมาให้ หลายครั้งที่ประมาณสี่โมงเย็นผมจะตามยิ้มไม่เจอ วันหนึ่งผมถามยิ้มว่าคุณหายไปไหนตอนเย็นๆ เขาบอกว่าต้องขอโทษเพราะเขาต้องไปดูแลแม่ที่แถวรังสิต ผมถามว่าแล้วไปอย่างไร คำตอบคือนั่งรถไฟแล้วไปต่อรถเมล์

 

นี่คือ "ยิ้ม" คนที่ทำงานทุ่มเทกับการต่อสู้คดีให้บ้านเมืองเป็นหมื่นล้าน แต่ยังไปไหนมาไหนด้วยรถเมล์ตลอดเวลา

 

เมื่อวานพอฟังคำสั่งศาลปกครองสูงสุดเสร็จ ผมบอกยิ้มว่าเห็นมีนักข่าวรออยู่ข้างล่างเดี๋ยวช่วยอธิบายเรื่องราวให้นักข่าวฟังด้วย ยิ้มขอโทษผมบอกว่าเขาเป็นแค่พนักงานการรถไฟและต้องรีบกลับไปทำงาน 

 

นี่แหละครับที่เรียกว่า "ปิดทองหลังพระ" ตัวจริง

 

วันนี้หลายคนชื่นชมและชมเชยผม แต่ผมขอชื่นชมและขอชมเชยยิ้ม "นายสุทธิรักษ์ ยิ้มยัง" พนักงานการรถไฟแห่งประเทศไทย 

 

พนักงานตัวเล็กๆ ที่มีจิตใจที่ยิ่งใหญ่ ผู้ปิดทองหลังพระเพื่อชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

 

หมายเหตุ : ผมอยากลงรูป "ยิ้ม" ด้วย แต่เพราะที่ผ่านมามัวแต่ยุ่ง ทำงานกัน ไม่เคยคิดเรื่องถ่ายรูปกันเลย วันหลังจะเอารูปยิ้มมาลงให้ดูกันนะครับ

logoline