ผู้สื่อข่าวรายงาน โดยทางด้าน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะสายการบินแห่งชาติ ได้รับความไว้วางใจในสถานการณ์ฉุกเฉิน จากรัฐบาลไทย โดยกระทรวงการต่างประเทศ ให้ปฏิบัติภารกิจนำคนไทยที่อพยพจากประเทศยูเครน เดินทางกลับประเทศไทยเป็นชุดที่ 4 จำนวน 16 คน
ซึ่งผู้โดยสารทั้งหมดออกเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงบูคาเรสต์ไปยังซูริก จากนั้นเดินทางด้วยเที่ยวบิน TG971 เส้นทางซูริก-กรุงเทพฯ ออกเดินทางจากซูริก เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 เวลา 13.49 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 5 มีนาคม 2565 เวลา 06.14 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นางพรพัฒน์ เล็กสูงเนิน ชาวไทยจากจังหวัดนครราชสีมา เล่านาทีหนีตายจากเมืองเคียฟ ประเทศยูเคน ว่า เห็นการณ์เริ่มตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนเองและเพื่อนร่วมงาน ได้ติดต่อสถานฑูต เพื่อรอการอพยพกลับประเทศไทย เอาไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่า จะเกิดเหตุการณ์เร็วกว่าที่คิด ซึ่งในวันนั้น ตนเองยังมีแผนที่จะต้องไปทำงาน แต่พอตื่นเช้ามาพบว่า เริ่มเห็นความวุ่นวายของชาวยูเคน ในพื้นที่
รวมถึงเริ่มมีเสียงระเบิดดังขึ้นตลอดเวลา ซึ่งขณะนั้นยอมรับว่า กลัวมาจนกระทั่งนายจ้าง ติดต่อแจ้งมาว่า จำเป็นต้องอพยพออกจากเมืองเคียฟ และให้กลับประเทศไทย ซึ่งให้หลบภัยอยู่ในที่พักก่อน รอรถมารับ จนกระทั่งมีรถบัสขนาดเล็ก มารับจากที่พัก เพื่อเดินทางมายังสนามบิน โดยจะต้องใช้เวลานานถึง 15 ชั่วโมง และตลอดการเดินทาง ก็เห็นภาพการปะทะกันอย่างรุนแรง แม้กระทั่งถูกรถถัง วิ่งตัดหน้ารถบัส ที่ตนเองนั่งโดยสารมา ไม่เว้นแม้แต่กระสุนปืนใหญ่ ที่ถูกยิงข้ามหัว ขณะนั่งรถผ่านเมืองเคียฟ จนทำให้ขวัญกระเจิง กระทั่งเมื่อก้าวขึ้นเครื่องบิน ก็รู้สึกถึงความปลอดภัยได้เลย เพราะกำลังจะได้กลับบ้านเกิดแล้ว
ด้าน นายฉัตรชัย วิริยะเวชกุล อธิบดีกรมการกรงศุล ระบุว่า ขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศ ได้ช่วยเหลือคนไทยในยูเคน กลับมาประเทศไทย แล้ว จำนวน 197 คน และมีคนไทยเดินทางกลับมาเองอีก 3-4 คน รวมเป็น 20 คน ส่วนคนไทยอีก 8 คน ที่อยู่ชายแดนของรัสเซียนั้น ขณะนี้จากการตรวจสอบทราบว่า มีเพียงคนเดียวที่แจ้งความประสงค์จะขอกลับ ส่วนที่เหลือยังคงขออยู่กับครอบครัวที่ประเทศยูเคน
"ช่วงเที่ยงวันนี้ ยังมีแรงงานไทย อีกประมาณ 45 คน จะเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย โดยเครื่องบิน ของสายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK 384 ซึ่งจะมาถึงยังสนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 12.05 น.
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ติดตามสถานการณ์และประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด โดยยืนยันความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจรับคนไทยจากยูเครนกลับบ้านมาพบกับครอบครัวในเที่ยวบินต่อไป