ญาติชาวพิมาย 2 ราย ที่เดินทางไปทำงานในประเทศยูเครนห่วงความปลอดภัย

2 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 25 หมู่ 14 บ้านซึมพัฒนา ต.สัมฤทธิ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับญาติของ น.ส.กาญจนา  แซ่เฮ็ง อายุ 30 ปี แรงงานไทยในประเทศยูเครน  โดยพบกับนางสุณี  พิมพิมาย อายุ 51 ปี ป้าของ น.ส.กาญจนาฯ เล่าว่า หลานสาวเพิ่งไปทำงานที่ประเทศยูเครนได้ประมาณ 4 เดือน ซึ่งไปทำงานเกี่ยวกับนวดและสปาอยู่ในเมืองเคียฟ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของยูเครนและเป็นจุดที่เกิดสงคราม โดยหลานสาวบอกว่าได้ยินเสียงระเบิดดังมาก  ส่วนตอนนี้ทางสถานทูตได้อพยพแรงงานไทยออกมาจากพื้นที่แล้วเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย 

จากการสอบถาม น.ส.กาญจนาฯ ทางโทรศัพท์ เล่าว่า ตอนนี้ได้อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว โดยมีคนไทยที่อยู่ด้วยกันตอนนี้ 25 คน และรอคนไทยที่จะเดินทางมาจากเมืองต่างๆ อีก เพื่อจะได้เดินทางกลับประเทศไทยต่อไป  

ด้านนางสุณีฯ ป้าของ น.ส.กาญจนาฯ เล่าต่ออีกว่า หลังจากทราบข่าวว่าเกิดสงครามในประเทศยูเครนและยังใกล้กับสถานที่ที่หลานสาวอาศัยอยู่อีกด้วยทางบ้านเป็นห่วงมาก อยากให้กลับมาบ้านเราโดยเร็ว

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 199 หมู่ 10 บ้านทุ่งพิกุลทอง ต.ชีวาน อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เพื่อพบกับญาติของ น.ส.จิราพัชร  ยิ่งแก้ว อายุ 51 ปี อีกหนึ่งคนไทยที่ไปทำงานในประเทศยูเครน โดยพบกับนางลำพรรณ  อยากดี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นพี่สาว น.ส.จิราพัชรฯ เล่าว่า น้องสาวไปทำงานในประเทศยูเครนได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว โดยน้องสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ส่งเงินมาให้ทางบ้านเป็นประจำ  หลังทราบข่าวความไม่สงบขึ้นทางครอบครัวเป็นห่วงน้องสาวมาก  อยากให้กลับมาอยู่บ้านเราถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าจะทำงานอะไรก็ตาม แต่ยังโชคดีที่น้องสาวอยู่ห่างจากเมืองหลวงประมาณ 7 ชั่วโมง  ตอนนี้น้องสาวได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว โดยคาดว่าจะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 2 มี.ค.65 เวลาประมาณ 12.00 น. นางลำพรรณฯ กล่าว

โดย - ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ