ที่รัฐสภา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย นายเมธา มาสขาว ในนามผู้แทน 5 องค์กรภาคประชาชน คือ คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย สมาคมสิทธิเสรีภาพของประชาชน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา และมูลนิธิร่วมมิตรไทย-พม่า ยื่นหนังสือต่อ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้สอบหาข้อเท็จจริงการทุจริตประพฤติมิชอบและหามาตรการและปราบปรามกระบวนการค้ามนุษย์ พร้อมขอให้กมธ.ป.ป.ช. ทำการสอบสวนเรื่องนี้และขอให้เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
1.นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดโดยตรงตามมาตรา 6 พระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ ซึ่งมีการสั่งย้าย พลตำรวจตรีปวีณ ไปยังสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
2.รองนายกรัฐมนตรี พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะประธานที่ประชุมข้าราชการตำรวจในขณะนั้น
3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา
4.พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ซึ่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ในขณะนั้น
5.พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
ด้าน พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ยืนยันจะดูตามข้อเท็จจริง และจะเชิญบุคคลที่ผู้ร้องกล่าวถึงมาให้ปากคำเพื่อขอข้อเท็จจริงที่มากกว่านี้ ส่วนกรณีที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายรังสิมันต์ โรม ในฐานะโฆษก กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จะนำเรื่องนี้เข้ากมธ.กฎหมายฯ จะสามารถทำเรื่องร่วมกันได้หรือไม่นั้น พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ บอกว่า สามารถทำร่วมกันได้ แต่ต้องดูว่ารายละเอียดเหมือนกันหรือไม่ ทั้งนี้กมธ.กฎหมาย มีหน้าที่เรื่องนโยบายด้านกฎหมาย ด้านสิทธิมนุษยชน ไม่ได้มีหน้าที่เรื่องเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ไม่ชอบ แต่เป็นเรื่องของ กมธ.ป.ป.ช.