วันนี้ (23 ก.พ.) "โออาร์ และ บางจาก" แจ้งปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลปรับขึ้น 60 สตางค์ต่อลิตร
มีผลวันที่ 24 ก.พ. 65 ตั้งแต่เวลา 05:00 เป็นต้นไป
*ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานครฯ ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
โดยราคาน้ำมันขายปลีกวันพรุ่งนี้ (24 ก.พ.)
น้ำมันในกลุ่มดีเซล
-ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 34.56 บาท
- ดีเซล B7 อยู่ที่ 28.54 บาท
- ดีเซล อยู่ที่ 28.54 บาท
- ดีเซล B20 อยู่ที่ 28.54 บาท
น้ำมันในกลุ่มเบนซิน
- เบนซิน อยู่ที่ 43.56 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 36.15 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 35.88 บาท
- E20 อยู่ที่ 35.04 บาท
- E85 อยู่ที่ อยู่ที่ 28.93 บาท
การปรับขึ้นราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ เป็นการปรับขึ้นครั้งแรกหลัง เมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่่ผ่านมา เพิ่งมีการปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินลง 40 สตางค์ต่อลิตร หลังปรับขึ้นต่อเนื่องถึง 11 ครั้งรวด และปรับลดราคาน้ำมันกลุ่มดีเซลลงอีก 2 บาท จากการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีก 3 บาทต่อลิตร ในช่วง 3 เดือน เพื่อลดผลกระทบประชาชนและฟื้นภาวะเศรษฐกิจไทย
โดยนักวิเคราะห์ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย มองว่ามีความเกี่ยวเนื่องจากความตรึงเครียดระหว่างยูเครนกับรัสเซีย ที่หากสงครามเกิดขึ้นจริงราคาน้ำมันจะพุ่งสูงขึ้น ทะลุถึง 120 -150 ดอลลาร์สหรัฐฯ /บาร์เรล และทำให้ต้นทุนราคาสินค้า เงินเฟ้อ ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าจะเกิดในระยะสั้น หลังจากนั้นโอเปคน่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อคลี่คลายวิกฤตพลังงาน
อีกทั้งหากเกิดสงคราม การส่งออกของประเทศไทยก็คงชะลอตัวลงบ้าง แต่ไม่น่าจะรุนแรงนัก เพราะไทยไม่ได้รับผลกระทบทางตรง เนื่องจากรัสเซียไม่ได้เป็นตลาดส่งออกหลักของไทย