23 กุมภาพันธ์ 2565 นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แนวทางการรักษาและเบิกจ่ายกรณีโควิด-19 กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดปรับระบบการรักษาโรคโควิด-19 ให้เป็นการรักษาตามสิทธิ เริ่มวันที่ 1 มี.ค.65 และจะมีการประกาศใช้ UCEP Plus ดูแลผู้ป่วยโควิดกลุ่มสีเหลืองและโควิดกลุ่มสีแดง ให้เข้ารับบริการได้ในสถานพยาบาลรัฐและเอกชนทุกแห่ง อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบให้กระทรวงสาธารณสุขทบทวนเรื่องนี้อีกครั้ง
“ ขณะนี้ โควิด-19 จึงยังเป็นโรคฉุกเฉินสามารถรักษาได้ทุกที่ (UCEP COVID) สถานพยาบาลโดยเฉพาะโรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธการรับผู้ป่วยได้ หากไม่มีศักยภาพในการดูแลหรือไม่มีเตียงจะต้องส่งต่อ และไม่สามารถเรียกเก็บเงินมัดจำได้ มิเช่นนั้นจะมีความผิดตามพ.ร.บ.สถานพยาบาล ”
ส่วนการทบทวนจะเน้นทำความเข้าใจประชาชน ทั้งการเข้าสู่ระบบเมื่อติดเชื้อ ช่องทางติดต่อ การใช้สิทธิรักษาของแต่ละกองทุนสุขภาพ ความเข้าใจเรื่องระดับอาการที่มีการดูแลแตกต่างกัน เช่น อาการปานกลางสีเหลืองที่เข้ารักษาได้ทุกที่มีเกณฑ์อย่างไร เป็นต้น รวมถึงระบบการส่งต่อ เพื่อให้ประชาชนเข้ารับบริการได้ถูกช่องทาง
รวมถึงทำความเข้าใจกับฝั่งสถานพยาบาลด้วย ส่วนเรื่องของ UCEP Plus ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้เตรียมการรองรับและทำระบบคัดแยกไว้แล้วนั้น จะมีการทบทวนไปพร้อมกัน ซึ่งไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาในการทบทวนไว้ หากเตรียมกระบวนการบริการและการสื่อสารครบถ้วนก็นำเสนอ ครม. ต่อไป
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ยืนยันว่า UCEP COVID ยังรักษาได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องกลับไปรักษายังหน่วยบริการที่ลงทะเบียนไว้ ส่วนการรับบริการทั้งที่บ้าน ชุมชน โรงแรม โรงพยาบาล ระบบจะเข้าไปดูแลค่าใช้จ่าย สำหรับช่องทางลงทะเบียนผู้ติดเชื้อผ่านสายด่วน 1330 กด 14 หรือ ไลน์ @สปสช ตลอด 24 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม ทุกวินาทีจะมีผู้รอสายประมาณ 50 สาย จึงแนะนำให้ติดต่อผ่านไลน์ สปสช. @nhso หรือเว็บไซต์ของ สปสช. จะมีเจ้าหน้าที่รับเรื่องและติดต่อกลับเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังมีสายด่วนศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร โทร. 1669 กด 2 อีกทั้งผู้ป่วยสามารถโทร สายด่วนโควิด (EOC) 50 เขต เพื่อประสานการเข้ารับการรักษา ได้ดังนี้
กรุงเทพเหนือ
กรุงเทพกลาง
กรุงเทพตะวันออก
กรุงเทพใต้
กรุงธนเหนือ
เขตกรุงธนใต้