"นิโรธ"ไม่ขอวิจารณ์เพื่อไทยชงคนนอกครอบงำพรรคย้ำรู้ว่าคิดอะไร

21 กุมภาพันธ์ 2565 นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 25-26 ก.พ. 65 ที่เป็นการพิจารณาร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ร่างกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. จะยึดร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นหลัก ส่วนร่างกฎหมายพรรคการเมือง จะยึดร่างของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

ทั้งนี้ ไม่ขอแสดงความคิดเห็นร่างของพรรคเพื่อไทย ที่มีการเสนอแก้ไขมาตรา 28 และมาตรา 29 เพื่อปลดล็อกให้คนนอก หรือคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ครอบงำ ชี้นำ พรรคการเมือง แต่ย้ำว่า "รู้นะว่ามีเจตนาอะไร" ซึ่งการจะให้คนนอกมาแสดงความคิดเห็น ชี้นำ ก็ให้คนนั้นเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคก็หมดเรื่อง จะชี้แนะ หรือแนะนำอะไรก็ทำได้ แต่หากทำแบบนี้ ก็จะส่งผลให้กฎหมายบิดเบี้ยว ไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนจะเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ 

สำหรับแนวทางของพรรคร่วมที่มีต่อร่างแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองซึ่งเสนอโดยพรรคเพื่อไทยนั้น ส่วนตัวขอย้ำว่า รัฐธรรมนูญเขียนมาดีแล้ว จะไปแก้ให้บิดเบี้ยวคงไม่ได้ และการแก้ไขครั้งนี้ ก็เป็นการแก้ไขให้สอดคล้องกับการเลือกตั้งเท่านั้น และส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว ส่วนจะลงมติไม่รับหลักการร่างของพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น จะคุยกันอีกครั้งในที่ประชุมวิปรัฐบาล 

ส่วนกรอบเวลาการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับ คาดว่าหลังจากรับหลักการในวาระที่ 1 ก็จะให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างกฎหมาย โดยใช้เวลาช่วงปิดสมัยประชุมดำเนินการให้เสร็จ เมื่อเปิดสมัยประชุม ก็นำเข้าสู่วาระที่ 2 และ 3 ได้ทันที โดยไม่กังวลว่าพรรคเล็กจะไปยื่นร้องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องบัตร 2 ใบ และเชื่อว่าไม่ส่งผลกระทบกับไทม์ไลน์ที่วางไว้ คือ ต้องแล้วเสร็จในเดือนก.ค. 

นายนิโรธ ยังกล่าวถึงเรื่ององค์ประชุมของพรรคร่วมรัฐบาล ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่มีบารมี ว่า บารมีจะเกิดกับการให้ทาน ศีล และปัญญา การที่จะไปพูดอะไร ก็เป็นการอวดอ้างบารมี ยืนยันว่าตนเป็นคนอ่อนน้อม แต่ไม่อ่อนแอ และบารมีของตน ก็เกิดจากการใช้ปัญญาในการทำงาน อีกทั้งการตรวจสอบองค์ประชุมในสภาฯ ก็ไม่ใช่การตรวจสอบรัฐบาล แต่เป็นการตรวจสอบการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภาฯ แต่ก็ถูกนำไปบิดเบือนกันไป 

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่รอด แม้จะถูกฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจอีกรอบ เพราะรัฐบาลมีเสียงมากกว่า 260 เสียงอยู่แล้ว