svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"พิชัย"ชี้รัฐลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 3 บ.ยังน้อยไป

16 กุมภาพันธ์ 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พิชัย นริพทะพันธุ์"มองรัฐลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลยังน้อยเกินไป แนะใช้แนวทางสมัย"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ในการช่วยลดภาระให้กับประชาชน

16 กุมภาพันธ์ 2565 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ และอดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลง ลิตรละ 3 บาทนั้น เห็นว่าเป็นแนวทางที่ลดน้อยและลดช้าเกินไป ซึ่งหากจำกันได้ เรื่องดังกล่าวคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยได้แนะนำ และเรียกร้องมาตลอดนานหลายเดือนแล้ว โดยเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำม้นดีเซลลิตรละ 5 บาท และยังยืนยันล่วงหน้า ว่าถึงอย่างไรรัฐบาลก็ต้องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลนี้

 

\"พิชัย\"ชี้รัฐลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 3 บ.ยังน้อยไป

 

 

"พล.อ.ประยุทธ์ พยายามปฏิเสธมาตลอด แต่สุดท้ายก็ต้องลดตามคำแนะนำ แต่ภาษีสรรพสามิตที่ลด มีปริมาณน้อยเกินไป เพราะลดแล้วไม่ได้ช่วยให้ราคาน้ำมันดีเซลลดลง เพราะปัจจุบันรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ให้กองทุนน้ำมันสนับสนุนราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 3.79 บาท ซึ่งก็ยังสูงกว่าที่รัฐบาลลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ลิตรละ 3 บาท ถึงลดแล้วกองทุนน้ำมันก็ยังต้องอุดหนุนอยู่ อีกทั้งราคาน้ำมันยังคงมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกเรื่อยๆ ดังนั้น การลดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียง 3 บาทจึงน้อยไป และการลดการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่มากกว่านี้จึงจำเป็น" นายพิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ตั้งแต่ที่คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยเสนอ ราคาสินค้าก็จะไม่ขึ้นราคามากขนาดนี้ เพราะราคาน้ำมันเป็นต้นทุนของสินค้าแทบทุกชนิด ปัจจุบันราคาสินค้าได้สูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นไปแล้ว การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ลิตรละ 3 บาท จึงไม่ช่วยให้ราคาสินค้าลดลงแต่อย่างใด หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงสูงขึ้นอีก ตามแนวโน้มทิศทางราคาน้ำมันโลก ราคาสินค้าก็อาจจะเพิ่มขึ้นอีก อีกทั้ง การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียง 3 เดือน น่าจะไม่เพียงพอและเป็นไปไม่ได้เลย เพราะราคาน้ำมันโลกไม่น่าจะลดลงได้ภายใน 3 เดือน ซึ่งราคาน้ำมันใน 3 เดือนข้างหน้ามีแต่ราคาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 

 

อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท นอกจากไม่ได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายของประชาชน แต่เป็นการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเองมากกว่า เพราะการลดภาษีสรรพสามิตครั้งนี้ เพื่อไปลดภาระของกองทุนน้ำมันเท่านั้น ดังนั้น ประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันครั้งนี้แต่อย่างใด

นายพิชัย กล่าวต่อว่า สถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่กำลังผันผวน และยังมีแนวโน้มราคาน้ำมันจะแพงขึ้นไปอีกพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องคิดล่วงหน้า ในภาวะเช่นนี้ขนาดลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 5 บาท อาจจะยังไม่พอต้องกลับไปคิดว่าในเมื่อราคาน้ำมันจะยิ่งพุ่งขึ้น ประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนลง พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลงให้เท่ากับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คือ ลดลงเหลือการเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเพียงลิตรละ 0.005 บาท (ครึ่งสตางค์) เท่านั้น เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชนล่วงหน้า ก่อนที่ราคาน้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีก และรัฐบาลจะถูกบังคับให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกในที่สุด ซึ่งประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลเลย และควรทำเร็วที่สุด อีกทั้งควรจะต้องออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับประชาชนเป็นมาตรการเสริมด้วย 

 

"การที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องกลืนน้ำลาย และจำต้องลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ทั้งที่ปฏิเสธเสียงแข็งมาตลอด แสดงถึงความล้มเหลวขาดวิสัยทัศน์ และความด้อยประสิทธิภาพในการบริหารจัดการราคาพลังงานของพล.อ.ประยุทธ์ นับเป็นความล้มเหลวซ้อนความล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจด้วย ถ้าหากยังไม่รู้ตัวและยังคงดื้อรั้นคิดว่าตัวเองยังบริหารประเทศได้ดี จะยิ่งทำให้ประเทศเสียหายมากยิ่งขึ้นไปอีก" นายพิชัย กล่าว

logoline