สั่งย้าย ! เจ้าหน้าที่ภูลังกา พบมีมูลทุจริต ปล่อยนทท.ขึ้น "ถ้ำนาคา"เกิน

8 กุมภาพันธ์ 2565 จากกรณีมีผู้ติดค้างบน “ถ้ำนาคา” ภายในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ฝั่ง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ  เป็นจำนวนมากเมื่อวันเสาร์ ที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา เมื่อข่าวนักท่องเที่ยวตกค้างอยู่บน “ถ้ำนาคา” ได้เผยแพร่ออกไป ได้เกิดเสียงวิพาก์วิจารณ์เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกันบางส่วนได้โพสต์ ข้อความโดยอ้างว่า แม้การขึ้นไปเที่ยวชมจะต้องลงทะเบียนล่วงหน้า แต่ในแต่ละสัปดาห์จะมีทั้ง วีไอพี บุคคลสำคัญ ดารา นักร้อง  และหน่วยงานราชการต่าง ๆทำหนังสือเพื่อขอเข้าเที่ยวชม ซึ่งทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวที่ขึ้น “ถ้ำนาคา” เกินปริมาณที่กำหนด จนไม่มีประสิทธิภาพในการจัดการระบบและดูแลที่มากเพียงพอทำเกิดปัญหาขึ้น

นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ชี้แจงกรณีดังกล่าวกับ "คมชัดลึก" ว่า หลังเกิดเหตุเมื่อวันเสาร์ (5 ก.พ.) ช่วงค่ำวันเดียวกันได้รายงานไปยัง นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จากนั้นวันอาทิตย์ได้สั่งการไปยัง สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ว่ามีการทุจริตหรือไม่

เบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีมูล ซึ่งมีทั้งไกด์นำเที่ยวและเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงสั่งให้ย้ายกลุ่มที่มีส่วนเกี่ยวข้องออกไปก่อน เช่น เจ้าหน้าที่หน้าด่าน ไปปฏิบัติหน้าที่อื่น พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน และให้เจ้าหน้าที่ชุดใหม่เข้าไปดูแลแทน โดยวันนี้(8 ก.พ.) ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 (อุดรธานี) จะนำเรื่องนี้ไปประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาต่อไป

สำหรับจำนวนนักท่องที่จะขึ้นไป "ถ้ำนาคา"  ได้กำหนดไว้จำนวน 500 คนต่อวัน แต่ความต้องการต่อวันนั้นมีนับพันนับหมื่นคน โดยเฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวมีเรื่องความเชื่อ เสาร์ 5 ด้วย ทำให้มีความต้องการขึ้นถ้ำนาคามากเป็นพิเศษ

กรณีจองผ่านระบบคิวคิวไม่ได้ ไม่ใช่มีการล็อกจำนวนโดยเจ้าหน้าที่ แต่เพราะมีความต้องการมากเกินจำนวน จุดนี้ทำให้เกิดปัญหาว่า นักท่องเที่ยวไปถึงที่แล้วก็ยอมจ่ายเงิน เพื่อให้ได้ขึ้นไป โดยสืบทราบมีไกด์ประมาณ 5-6 คน ไปเปิดเพจเฟซบุ๊กเพื่อรับดำเนินการในลักษณะนี้ ซึ่งกำลังขยายผลการสอบสวนอยู่

ส่วนจะขยายกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยวให้มากกว่า 500 คนต่อวันได้หรือไม่นั้น ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า ไม่สามารถทำได้ หากจะเพิ่มจริงก็ไม่เกิน 10-20% เพราะจากการประเมินสภาพพื้นที่แล้วรองรับได้เพียงเท่านี้ การเดินขึ้นภูลังกามีบางช่วงที่ต้องรอคิว เป็นทางชัน ไม่สามารถเดินสวนกันได้ ทุกอย่างผ่านการคิดคำนวณมาทั้งหมดแล้ว

สิ่งสำคัญที่สุดที่กรมอุทยานฯ เป็นห่วง คือ

ความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติโดยรวมของพื้นที่ แม้จะทราบดีว่ามีความต้องการสูงของนักท่องเที่ยว รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับเงินหมุนเวียน แต่ส่วนตัวเห็นว่าหากนักท่องเที่ยวยังเดินทางขึ้นไปบนถ้ำนาคาไม่ได้ ก็ต้องพักค้างเพื่อรอเวลาอยู่ในพื้นที่ จุดนี้ก็ทำให้ชุมชนใกล้เคียงมีรายได้เช่นกัน ซึ่งวันนี้จะมีการปรึกษาหารือในประเด็นนี้ด้วย

ข้อมูลจาก คมชัดลึก