วันนี้ (5 ก.พ.) มีรายงานข่าวว่า ได้มีผู้ประกอบการรีสอร์ต เกาะเสม็ด หาดทรายแก้ว ต.เพ อ.เมืองระยอง ออกมาเปิดเผยว่า พบเห็นผงดำปนเปื้อนอยู่ในน้ำทะเลจำนวนมาก โดยผงดำดังกล่าวถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาดเป็นระยะทาง ประมาณ 400 เมตร และสามารถเห็นได้ชัดเรื่องจากเนื่องจากทรายเป็นสีขาว
น.ส.จิรภัทร รัตนปัญญา เจ้าของสินมุทรกรุ๊ป รีสอร์ต เกาะเสม็ด เปิดเผยว่า วานนี้ (4 ก.พ.) ช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เดินไปดูชายหาดก็พบว่า หาดทรายยังขาวดี แต่วันนี้ก็ไม่คิดว่าคลื่นจะพัดผงดำกลับมาอีก และมีมากกว่าเก่าด้วย
“ขณะที่บรรยากาศที่รีสอร์ตเงียบเหงาเหมือนเดิมไม่มีคนมาเลย มีแต่โทรมาขอยกเลิก – เลื่อนออกไป วันนี้จริง ๆแล้วจะมีนักดำน้ำหลายชุด แต่ยกเลิกทั้งหมด ให้เหตุผลไม่กล้าลงดำน้ำ เพราะกลัวสารเคมีที่ใช้สลายคราบน้ำมันจมใต้ทะเล” น.ส.จิรภัทร กล่าว
ด้าน นายจินดา แสงสินชัย ชาวประมงคลองกะเฌอ และเจ้าของร้านอาหารเมย์ดีซีฟู๊ด กล่าวว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ได้เดินลงไปเก็บขยะทำความสะอาดชายหาด พบคราบผงดำบาง ๆ เกลื่อนหาด น้ำทะเลยังมองเห็นเป็นมัน ๆ ลักษณะคล้ายน้ำมันลอยผิวน้ำ ส่งกลิ่นเล็กน้อย มือล้างน้ำทะเลมันยังติดมือล้างไม่ออก
“ก่อนเกิดเหตุการณ์น้ำมันรั่วลงทะเลตั้งแต่ปี 2556 ตามปกติจะมีฝูงปลาสันเขียว ปลากุแล ซึ่งเป็นปลาชายฝั่งจะขึ้นเต็มไปหมด หลังเกิดน้ำมันรั่วฝูงปลาก็หายไปหมด เวลาผ่านมา 9 ปีแล้ว พอเริ่มปีนี้เริ่มมีจะปลา ผมออกเรือไปจับปลาก็มีรายได้วันละ 1,500- 2,000 กว่าบาท ก็มาเกิดน้ำมันรั่วซ้ำอีก ร้านค้าไม่มีคน ใครที่ไหนเขาจะมา น้ำทะเลก็ยังลงเล่นไม่ได้ ถึงให้เล่นน้ำได้ก็ยังไม่มีใครกล้าเล่น”นายจินดา กล่าว
นายจินดา กล่าวต่อว่า เรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ต้องมีการเยียวยาในระยะยาวและต้องมีการฟื้นฟู ไม่ใช่เยียวยาเหมือนปี 2556 ให้รายละ 30,000 บาทครั้งเดียวแล้วไม่ให้อีก แล้วบางคนต้องเปลี่ยนอาชีพไปเป็นยาม เพราะชาวประมงออกเรือไปก็จับปลาไม่ค่อยได้ กุ้งเคย ที่เคยหาได้มาทุกปีมาทำกะปิได้เป็นตันๆ พอเกิดน้ำมันรั่วลงทะเล กุ้งเคยหนีหมด ทุกวันนี้ต้องซื้อกะปิกิน
เรื่องสิ่งแวดล้อมในทะเลให้ดูที่กุ้งเคย ถ้าน้ำทะเลดีกุ้งเคยถึงจะอยู่ ปลา ปู กุ้งก็หายไปหมดทั้งที่ กลุ่มประมงเรือใหญ่ต้องจอดกันจำนวนมากเพราะกฎหมายมีข้อบังคับมากมาย ปลา หมึกชายฝั่งก็น่าจะมีเพิ่มปริมาณมากขึ้นแต่กลับลดลง