พรรคกล้าเชื่อเลือกตั้งซ่อมเป็นจุดแจ้งเกิดพรรค ชี้เทรนด์การเมืองใหม่มา

     วันนี้ (30 ม.ค. เมื่อเวลา 19.30 น. นายกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรค ในฐานะผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. เขต 9 ของพรรคกล้า แถลงแสดงความยินดีกับ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย ที่ชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. กทม. เขต 9 หลักสี่-จตุจักร และหวังว่า จะเข้าไปปฎิบัติหน้าที่ ส.ส. ตามความคาดหวังของประชาชน

     และในฐานะที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค ขอขอบคุณจากใจสำหรับทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ นายอรรถวิชช์ และพรรคกล้า ขอขอบคุณทีมงาน สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรคกล้าทุกคน เพราะที่ผ่านมาพรรคทุ่มสุดตัว เมื่อลงเลือกตั้งก็อยากชนะ แต่เรายังเป็นพรรคใหม่ หรือ สตาร์ทอัพ ที่รุกเร็ว รุกแรง เรียนรู้ ปรับตัว มีบทเรียนและประสบการณ์ ก็ถือว่ามาถูกทางในเรื่องการเมืองคุณภาพ สัญญาณที่ชัดเจนจากประชาชนรอบนี้ คือต้องการเห็นการเมืองเปลี่ยนแปลงที่มีคุณภาพ สร้างโอกาสให้ประชาชนและประเทศชาติได้  

     ด้าน นายอรรถวิชช์ กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้ และขอแจ้งข่าวดีกับชาวพรรคกล้าว่า ฐานเสียงเดิมในเขตจตุจักร พรรคกล้ามาเป็นที่ 1 ถือว่ายังรักษาตำแหน่งไว้ได้ ส่วนเขตหลักสี่ นายสุรชาติ เป็นแชมป์เก่าอยู่แล้ว ส่วนคะแนนทางการยังไม่สรุปว่า พรรคกล้าจะเป็นที่ 2 หรือ 3 แต่เรียกว่าได้ก้าวออกไปเป็นพรรคการเมืองในระดับที่มีคะแนนเทียบเท่ากับพรรคก้าวไกลที่มี ส.ส.ในสภา 50 คนแล้ว ซึ่งการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้วในกรุงเทพฯ

     ผลตัวเลขสะท้อนชัดเจนแล้วว่า การทำการเมืองแบบไหนถึงทำให้พรรคกล้าขึ้นมายืนได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ มีการเปลี่ยนหน่วยเลือกตั้งหลายจุด ทำให้การเดินทางลำบาก ผู้มาใช้สิทธิเฉพาะเขตจตุจักร มีเพียง 30% เศษ แต่เขตหลักสี่ มาใช้สิทธิจำนวนมาก ก็ต้องฝาก กทม. กระจายข่าวให้ทั่วถึงมากขึ้น เพราะข่าวที่ออกมาส่วนใหญ่จะพูดกันว่าเลือกตั้งซ่อมเขตหลักสี่ อีกทั้งการแบ่งเขตจตุจักรที่พิสดาร ทั้งที่เป็นเขตใหญ่ ทำให้สับสน 

     อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ลุ้นว่าคะแนนจะออกมาทรงไหน ไม่ถึงหมื่น หรือหายไปเลย แต่ปรากฏว่ายืนเป็นหลักใน กทม. ก็ฝากคนรุ่นใหม่ว่า ถ้าอยากเห็นการเมืองเชิงคุณภาพก็มาร่วมกับพรรคกล้า
 

     เมื่อถามว่า คะแนนที่พรรคกล้าได้มาจากสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ นายกรณ์ บอกว่า ผลการเลือกตั้งสะท้อนว่า คน กทม. ต้องการเปลี่ยนแปลงการเมือง รัฐบาลต้องอ่านสัญญาณให้ขาด การอยู่ในวาระตอนนี้ต้องแก้ปัญหาประชาชนมากกว่านี้ เพราะ 3 พรรคที่ได้คะแนนสูงในครั้งนี้ มีแนวทางต่างจากรัฐบาล และคาดหวังและมองว่าการเลือกตั้งสนามใหญ่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแน่นอน

     ส่วนเรื่องของการยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้หรือไม่ หัวหน้าพรรคกล้า บอกว่า ต้องไปสอบถามจากผู้มีอำนาจ แต่แนวทางพรรคตอนนี้ถือว่าสู้ได้ มีความพร้อม แต่ก็ต้องเร่งระดมสรรพกำลัง เพราะยังเป็นพรรคใหม่อยู่