ธรรมนัส ขอบคุณชาวชุมพร ชี้มีการทุจริตเลือกตั้ง

นายชวลิต อาจหาญ หรือ ทนายแดง ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ร่วมมอนิเตอร์ผลการนับคะแนนเลือกตั้งซ่อม เขต 1 จ.ชุมพร ที่โรงแรมเอเต้ ในตัวเมืองชุมพร ร่วมกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค ตั้งแต่ 16.30 น. จนถึงเวลา 20.00 น.

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวภายหลังทราบผลการเลือกตั้งซ่อม อย่างไม่เป็นทางการ ว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้กว่า 30,000 คะแนน ถือว่ามากกว่าการเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา

ส่วนคู่แข่งก็ทราบว่าคะแนนทิ้งห่างพอสมควร เป็นเรื่องที่ต้องกลับมาศึกษาทบทวนว่า เพราะเหตุใดคะแนนถึงไม่เพิ่มมากนัก ทั้งที่คาดการณ์ว่าจะได้มากกว่าเดิม ก็เป็นการบ้านที่จะต้องกลับไปทบทวน 

พร้อมกันนี้ ยอมรับว่า กลยุทธ์ของคู่ต่อสู้ใช้หลายรูปแบบ อย่างเช่นวันนี้ทั้งวันมีการจับทุจริตในการเลือกตั้ง มีหลักฐานชัดเจน มีทั้งวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งไม่เคยเห็นการเลือกตั้งที่ไหนทำแบบนี้ ส่วนจะผิดถูกอย่างไรจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมด ซึ่งตนเชื่อมั่นว่าตั้งแต่วันที่ 10 - 16 มกราคม ตรวจสอบแค่ไม่นานก็ทราบเส้นทางการเงิน การหมุนเวียนเงินแล้ว ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอสวี ว่าเป็นอย่างไร 

ส่วนผู้ที่ถูกจับวันนี้ นายชวลิต หรือทนายแดง ได้ร้องต่อ กกต.จังหวัดแล้ว ซึ่ง กกต.และตำรวจ ก็ต้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และดำเนินคดีกับผู้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งอย่างจริงจัง 

สำหรับกรณี นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวอ้างว่าพรรคพลังประชารัฐมีอำนาจเข้ามากดดันในพื้นที่นั้น ร้อยเอก ธรรมนัส บอกว่า ก็ว่ากันไป เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอำนาจรัฐก็เท่ากัน แต่ตนไม่อยากพูดมากกว่านี้เดี๋ยวจะกลายเป็นประเด็น 

ร้อยเอก ธรรมนัส ยังกล่าวขอบคุณชาวชุมพร อำเภอเมือง และอำเภอสวี ซึ่งกว่า 30,000 คะแนนที่ให้มา พรรคพลังประชารัฐต้องขอบคุณที่ยังให้กำลังใจทนายแดง และเชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในชุมพร เขต1 เร็วๆ นี้ แน่นอน คงต้องมาลุ้นผลคะแนนกันอีกรอบ 

ส่วนผลคะแนนเลือกตั้งซ่อมเขต 6 จ.สงขลา นั้น ขณะนี้ยังไม่มั่นใจเพราะยังนับคะแนนไม่เสร็จ แต่ก็ต้องขอบคุณชาวสงขลาทั้ง 3 อำเภอที่เลือกผู้สมัครของพรรคคือ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์   และขณะนี้ยังไม่ได้รายงานผลคะแนนให้ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคทราบ 

เมื่อถามว่า ผลคะแนนที่ออกมา แม้จะได้การตอบรับจากประชาชนมาก แต่ยังแพ้การเลือกตั้ง จะสะท้อนคะแนนความนิยมของพรรคพลังประชารัฐในสมัยหน้าหรือไม่ ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า การเลือกตั้งมีการแพ้และชนะเหมือนกับที่ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับชัยชนะมา แต่ครั้งนี้ทั้ง 2 จังหวัด แม้คะแนนเป็นรอง แต่คิดว่าไม่มีผล อยู่ที่การทำงานเพื่อประชาชน ว่าประชาชนได้รับประโยชน์จากนโยบายของพรรคอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นสาระสำคัญมากกว่า 

ด้าน นายชวลิต กล่าวขอบคุณพรรคพลังประชารัฐที่ให้โอกาสตนได้เป็นตัวเลือกของประชาชน และขอบคุณชาวชุมพรที่ตั้งใจเลือกตน ซึ่งถือว่าได้คะแนนมากกว่าครั้งที่แล้ว แม้จะไม่ชนะ แต่ทุกคะแนนจะเป็นกำลังใจให้ตนทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวชุมพรต่อไป