12 มกราคม 2565 นายแพทย์อดิศัย ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี ระบุถึงสถานการณ์เด็กติดเชื้อโควิด-19 โดยรอบนี้เด็กติดเชื้อโควิดสูงกว่ารอบที่ผ่านมา เนื่องจากเด็กเล็กยังไม่ได้รับวัคซีน แต่ส่วนมากอาการจะไม่รุนแรงเมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ รวมไปถึงอัตราการเสียชีวิตที่น้อยกว่า ร้อยละ 0.1 โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี มีเตียงรองรับเด็กติดเชื้อโควิด-19 70 เตียง แบ่งเป็นเตียงสีแดง 13 เตียง คือ ทารกแรกเกิด 6 เตียง // เด็กโต 7 เตียง และเตียงสีเขียว ซึ่งกรมการแพทย์ได้มีการสั่งให้สถาบันสุขภาพเด็กฯเตรียมเตียง ไว้ 100 เตียง หากมีสถานการณ์รุนแรงขึ้น
ส่วนอาการโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในเด็กเล็ก ร้อยละ 50 จะมีอาการไข้ เป็นหวัด และท้องเสีย มีเพียง 1-2 รายที่มีอาการหายใจเร็ว แต่เป็นห่วงกลุ่มเด็กเล็กที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ระบบสมอง จึงอยากบอกให้ผู้ปกครองสังเกตอาการบุตรหลานให้ดี
ส่วนปัจจัยของการติดเชื้อของเด็ก ยังเป็นเรื่องของการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลในครอบครัวที่มีการติดเชื้อ เพราะส่วนใหญ่เด็กอยู่กับบ้าน ส่วนอาการหรือสัญญาณที่สมควรนำตัวเด็กมารับการรักษาดูอาการใน รพ.นั้นต่อเมื่อมีอาการไข้สูง 39 องศา หายใจเร็ว ซึม ไม่รับประทานอาหาร ควรมาพบแพทย์ทันที
ด้าน ผศ.พิเศษ พญ.ปิยรัชน์ สันตะรัตติวงศ์ ผู้เชียวชาญด้านโรคติดเชื้อในเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กฯ ระบุว่า ขณะนี้มีเด็กติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ารับการรักษาที่สถานบันเด็กฯ 32 ราย และรักษาตัวที่บ้าน 60 ราย ส่วนใหญ่มีอาการไข้ มีน้ำมูก และหายใจเหนื่อยหอบ ยังไม่พบกลุ่มอาการหนักในการระบาดรอบนี้
ซึ่งการรักษาเด็กเล็กติดเชื้อโควิด จะให้ยารักษาตามอาการ ส่วนมากใช้เวลาการรักษาในโรงพยาบาล 2-3 วัน อาการจะดีขึ้น และสามารถกลับไปสังเกตอาการต่อที่บ้าน โดยการเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในกลุ่มเด็กเล็ก จำเป็นต้องมีผู้ปกครองมาดูแล ซึ่งจะมีผลทางด้านจิตใจซึ่งเด็กจะมีอาการดีขึ้น
ทั้งนี้หากผู้ปกครองที่ยังไม่ติดเชื้อโควิด-19 แต่มีความจำเป็นต้องมาดูแลเด็ก โรงพยาบาลจะมีระบบในการป้องกันควบคุมการระบาดโรค
รศ.พิเศษ พญ.พนิดา ศรีสันต์ รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์ ระบุถึงการเตรียมความพร้อมการฉีดวัคซีนในเด็ก ในขณะนี้ อย. ได้อนุมัติการใช้วัคซีนสำหรับเด็กอายุ 5-11 ปี โดยตามแผนของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยกำหนดให้การฉีดวัคซีนเริ่มในกลุ่มเสี่ยงที่เป็นกลุ่มเด็กที่มีโรคประจำตัวก่อน หลังจากนั้นจะขยายไปยังเด็กกลุ่มอื่นตามลำดับ แต่ทั้งหมดเป็นไปตามความสมัครของผู้ปกครองและเด็ก