พบคราบน้ำมันกลางทะเลสมุย คาดมาจากเรือสินค้าที่จม

จากกรณีทัพเรือภาคที่ 2 พบเรือไม่ปรากฏสัญชาติ ลอยเข้ามาใกล้แท่นขุดเจาะน้ำมันในพื้นที่อ่าวไทย แต่เรือลำดังกล่าวได้เกิดจมลงในทะเลห่างจากฝั่ง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ประมาณ 28 ไมล์ทะเล เมื่อช่วงค่ำของคืนวันที่ 8 ม.ค.65 

หลังเรือลำดังกล่าวจมลงในทะเล ทัพเรือภาคที่ 2 รายงานว่า มีคราบน้ำมันเชื้อเพลิงจากเรือลำดังกล่าวได้ไหลกระจ่ายออกมาจากเรือ โดยเจ้าหน้าที่ทั้งทัพเรือภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่า จ.นครศรีธรรมราช ร่วมทั้งเอกบริษัทเอกชน เร่งหาทางสกัดกั้นไม่ให้คราบน้ำมันดังกล่าว ไหลตามกระแสน้ำมายัง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตามทิศทางไหลของกระแสน้ำทะเล เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพร่วมของการท่องเที่ยว ร่วมถึงสัตว์ทะเล
               

นายปราโมช วัชรสินธุ์ หรือลุงแดน อายุ 70 ปี ชาวประมงพื้นบ้านบนเกาะสมุย เปิดเผยว่าขณะที่ตนเองออกไปตกปลาพบคราบลักษณะคล้ายคราบน้ำมัน ลอยเป็นแพอยู่บนผิวน้ำ อยู่ทางทิศใต้ของเกาะสมุย ห่างฝั่งบริเวณชายหาดบ้านบางเก่า ต.หน้าเมือง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 700 เมตร ซึ่งอยู่กลางทะเลระหว่างเกาะสมุย และเกาะมัดสุม แต่มีปริมาณที่ไม่มากนัก

เมื่อแล่นเรือเข้าไปดูใกล้ๆ ก็จะพบว่าคราบดังกล่าว มีลักษณะเป็นสีเขียว จับตัวกันเป็นก้อนเล็กๆ ลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ เพราะถูกคลื่นซัดจนแตกกระจายออก น้ำบริเวณดังกล่าวก็จะมีสีเขียวอย่างเห็นได้ชัด แตกต่างกับจุดที่ไม่มีคราบน้ำมันลอยมา จุดที่ไม่มีคราบน้ำมันลอยมาน้ำทะเล ก็จะมีความใส่ไม่ขุ่นเป็นสีเขียว 

นอกจากนี้จุดที่มีคราบน้ำมันก็ยังมีกลิ่นฉุนคล้ายกับกินน้ำมันอีกด้วย ซึ่งคราบน้ำมันเชื้อเพลิงที่พบ จะมีความแตกต่างกับคราบน้ำมันดิบที่เคยพบเห็นมาก่อน โดยคราบน้ำมันดิบจะเป็นก้อนเล็กๆ สีดำ และลอยอยู่บนผิวน้ำจนถึงชายฝั่ง แต่คราบน้ำมันเชื้อเพลิงจะมีสีออกเขียวๆ ลอยมาเป็นสายบนผิวน้ำ เมื่อเจอคลื่นก็จะแตกกระจาย และจะลอยอยู่ใต้ผิวน้ำ และอาจจะจมลงก้นทะเล ก่อนที่จะลอยถึงฝั่ง
                 

คราบน้ำมันอาจจะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ชายฝั่งมากนัก แต่อาจจะส่งผลกระทบต่อสัตว์ทะเล ร่วมถึงปะการังใต้ท้องทะเลได้หากคราบน้ำมันที่ลอยมามีปริมาณมาก แต่คราบน้ำมันที่พบในวันนี้ยังมีปริมาณไม่มากนัก โดยเชื่อว่า ภายใน 3-4 วัน คราบน้ำมันเหล่านี้ก็จะจมลงก้นทะเลทั้งหมด 

ขณะที่ทางด้าน นายทนง ลิ้มสุวรรณ ประชาสัมพันธ์เรือนำเที่ยวหมู่เกาะแตน เปิดเผยว่าเพิ่งทราบข่าวว่ามีเรือจม แต่ในพื้นที่เกาะแตน และเกาะมัดสุม จาการสังเกตของผู้ประกอบการที่แล่นในทะเล และพื้นบริเวณชายหาดทั้ง 2 เกาะ ก็ยังไม่พบคราบน้ำมันแต่อย่างใด 
                     

แต่ในส่วนของผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว เกาะแตน เกาะมัดสุม เองก็รู้สึกมีความกังวลใจ หากว่ามีคราบน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไหลออกมาจากเรือที่จมลอยมายังเกาะแตน และเกาะมัดสุม ก็อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อความสวยงามทางธรรมชาติ จนทำให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้ ซึ่งเกาะแตน และเกาะมัดสุม เป็นเกาะที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  จึงอยากฝากผู้ที่เกี่ยวข้องให้เร่งวางมาตรการป้องกันไม่ให้คราบน้ำมันลอยมายังเกาะแตน และเกาะมัดสุม ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของเกาะสมุย

ภาพ/ข่าว โดย : สมเกียรติ รักษามั่น จ.สุราษฎร์ธานี