จี้รัฐบาลเปิดเผยความจริง การระบาดเชื้อ ASF ในเนื้อหมู
รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ถามนายกฯ จะรับผิดชอบอย่างไร หลังเอกชนบอกข้อมูลมากว่า 2 ปี แต่ไม่มีมาตรการรองรับ เป็นผลหมูแพงกระทบประชาชน
นายพชรกร อรรณนพพร รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย และว่าที่ผู้สมัครส.ส.จังหวัดขอนแก่นเขต 9 กล่าวถึงกรณีที่มีเอกสารยืนยันว่ามีการแพร่ระบาดเชื้ออหิวาต์แอฟริกา (ASF) ในไทย สะท้อนถึงการพยายามปกปิดข้อมูลของภาครัฐในช่วงที่ผ่านมาและรัฐบาลไม่ได้พูดความจริงกับประชาชนมาตั้งแต่ต้น
ซึ่งตนเคยมีการเรียกร้องให้รัฐ อย่าปกปิดข้อเท็จจริงการแพร่ระบาด ASF ในเนื้อหมู พร้อมเสนอทางออก เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น หลังมีข่าวว่ามีการลักลอก ‘กุนเชียง’ที่พบเชื้อ ASF ที่ผลิตจากไทย เข้าไปยังไต้หวัน โดยกรมปศุสัตว์ไทยอ้างว่าเป็น ‘กุนเชียง’ ที่ลักลอบมาจากประเทศเพื่อนบ้าน
“ที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์หรือรัฐบาลจงใจปกปิดข้อมูลหรือไม่ เพราะปฏิเสธมาตลอดว่าเชื้อโรคหมูที่แพร่ระบาดในไทย ไม่ใช่ ASF
ทั้งที่ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลกับรัฐบาลไทยมาตั้งแต่ปี 63 ว่ามีการระบาดและมีสุกรในไทยเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฟาร์มขนาดเล็กหรือขนาดกลาง ที่ไม่ได้มีระบบปิดที่ดีพอ
แต่เหตุที่ทางรัฐไม่ยอมรับว่ามีไวรัส ASF เพราะจะกระทบการส่งออกหรือไม่ต้องการที่จะจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกษตรกรผู้เสียหายหรือไม่
นี่คือประเด็นการปกปิด ที่ปล่อยประละเลยของภาครัฐ ที่ไม่มีมาตรการป้องกันการระบาดของASFอย่างเข้มงวด ทั้งที่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การระบาดของเชื้อ ASF ได้แพร่กระจายทั่วจีน และทุกประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไทยปฏิเสธการมีอยู่ของเชื้อ ASFในไทย ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงในไทยจนจำนวนหมูลดลงไปเกือบ 50% ในท้องตลาด
ขณะที่มาตรการกระทรวงเกษตรกับกระทรวงพาณิชย์ ที่ออกมา ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เช่น จะให้เกษตรที่ได้รับความเสียหายหมูตายยกฟาร์ม ไปทำการกู้เงิน เพื่อเลี้ยงใหม่ ด้วยดอกเบี้ยต่ำ จึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะตราบใดยังไม่มีมาตรการและระเบียบมาตรฐานที่จะทำให้การเลี้ยงหมูปลอดโรค รวมถึงการที่ไม่มีวัคซีนหรือยารักษาโรคนี้ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูก็จะไม่กล้าเลี้ยงอีกเพราะเลี้ยงไปก็ตายยกฟาร์มเหมือนเดิมเพราะไม่มียารักษา
หรือจะให้ระงับการส่งออกเนื้อหมูเป็นเวลาสามเดือนก็เป็นเรื่องตลกสำหรับคนในวงการ เนื่องจากตอนนี้เนื้อหมูในประเทศมีราคาแพงจึงไม่จำเป็นต้องส่งออกในราคาปกติแต่อย่างใด
"นายกฯ จะปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เพราะผู้ประกอบการหรือภาคเอกชน ได้สะท้อนข้อมูลเรื่องโรคระบาดไปยังภาครัฐตั้งแต่ปี 63 ที่หมูในไทยเริ่มตายเป็นจำนวนมาก แต่กับมีความพยายามปกปิดจากภาครัฐเสียเอง"
จนสถานการณ์บานปลายไปสู่การล้มละลายของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู จนเกิดภาวะหมูขาดตลาดและมีราคาแพงจนสร้างความเดือดร้อนให้กับคนไทยอยู่ในขณะนี้
รัฐบาลต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชนและเปิดเผยข้อเท็จจริงทั้งหมดเกี่ยวกับโรคระบาดครั้งนี้
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ข้อเท็จจริง เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น รัฐจึงไม่ควรปกปิดข้อมูลและกรมปศุสัตว์ จะต้องแนะนำฟาร์มและเกษตรกรในการรักษาให้ถูกวิธีที่สุด โดยต้องรีบทำการสำรวจความเสียหายอย่างครอบคลุมและรีบช่วยเหลือเยียวยาชดเชยอย่างเหมาะสมและโดยเร็ว
รวมถึงหามาตรการป้องกันสุกรข้ามเขตโดยเฉพาะการลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้าน และโรคดังกล่าวสร้างผลกระทบอย่างหนักสำหรับการทำฟาร์มหรือเลี้ยงระบบเปิด ดังนั้นกรมปศุสุตว์ควรแนะนำปรับวิธีการเลี้ยงระบบปิด หรือกึ่งปิดเพื่อลดปัญหาและความสูญเสียในอนาคต