อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ คาดหมูแพงถึงกลางปี

นายนิพัฒน์ เนื้อนิ่ม อุปนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาหมูแพงในขณะนี้ว่า สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยสาเหตุเกิดจากโรคระบาดในสุกร แต่ที่รุนแรงที่สุดคือโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร หรือ ASF ซึ่งไม่มีวัคซีนป้องกัน และทำให้ต้องฆ่าหมูจำนวนมากเพื่อควบคุมโรค ซึ่งเริ่มระบาดตั้งแต่ปี 2562 ถึงแม้กรมปศุสัตว์จะปฏิเสธก็ตาม อีกทั้งราคาอาหารสัตว์เพิ่มสูงขึ้นราว 30 % ประกอบกับหลังภาครัฐคลายล็อกดาวน์ เปิดประเทศ ทำให้มีการบริโภคเนื้อหมูเพิ่มขึ้น สวนทางกับจำนวนหมูที่ลดลง

ทั้งนี้อยากวิงวอนภาครัฐ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี เข้ามาช่วยเหลือผู้เลี้ยงสุกรที่มีอยู่ราว 2 แสนราย ซึ่งขณะนี้ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง หลังแบกรับต้นทุนไม่ไหว โดยต้องการให้มีความจริงใจและจริงจังในการแก้ปัญหา โดยคาดว่าราคาเนื้อหมูจะลดลงจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติประมาณเดือนก.ค.นี้ หรือเร็วกว่านั้น

ส่วนกรณีที่กระทรวงพาณิชย์ที่จะตรึงราคาหมูในร้านค้าปลีกให้ไม่เกิน 150 บาท/ กิโลกรัม ไปจนถึงวันที่ 15 มกราคมนี้ รวมถึงตั้งจุดขายหมูธงฟ้า หรือหมูราคาประหยัดเพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ตนมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น พอบรรเทาความเดือดร้อนได้บ้าง ยังไม่อาจแก้ปัญหาราคาหมูแพงได้ทั้งวงจร พร้อมทั้งเสนอให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากต่างประเทศเพื่อทดแทนสินค้าที่ขาดหายไปในตลาด โดยให้สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเป็นผู้กำหนดโควตาว่าจะมีการนำเข้ามาในปริมาณเท่าไหร่ ส่วนไหนบ้าง เพื่อให้เกิดความสมดุล และที่สำคัญไม่กระทบต่อเกษตรกรไทยด้วย โดยต้องมีการเก็บข้อมูลให้ทั่วถึงก่อนว่าจริงๆ แล้วจำนวนหมูลดลงมากแค่ไหนกันแน่ รวมถึงลงทุนพัฒนาวัคซีนโรคในหมูให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งควรออกมาตรการกระตุ้นให้เกษตรกรที่เลิกเลี้ยงหมูให้กลับมาเลี้ยงหมูอีกครั้ง และเยียวยาและชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู