มาตรการป้องกันเชื้อ ช่องโหว่"โอมิครอน"

ช่องโหว่ตอนนี้ที่ทุกคนวิตกกังวลมากที่สุด คือการออกประกาศมาตรการต่างๆ ในการสกัดกั้นการแพร่ระบาด และกำหนดแนวทางในการปฏิบัติตนของผู้คนที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย แต่ข้อปฏิบัติเหล่านั้นกลายเป็นช่องโหว่ที่ปฏิบัติแล้วไม่มีการกำกับควบคุมอย่างเข้มงวด

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจงผลผู้ติดเชื้อที่มาจากอิสราเอล

1. ตรวจครั้งแรกเป็น "โอมิครอน" แต่ปริมาณน้อย

2. ตรวจซ้ำที่สมุยเป็นลบ

3. เป็นช่วงขาลงโอกาสแพร่เชื้อต่ำ

4. มีความผิดฐานผ่าฝืนมาตรการป้องกันควบคุมโรค

อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ออกมาบอกว่า ชายรายนี้เชื้อแทบไม่เหลือ วันที่เดินทางมาถึงน่าจะเป็นระยะหลังของการติดเชื้อ เมื่อแล็ป 2 แห่งที่เกาะสมุยตรวจผลเป็นลบ ไม่เจอเชื้อก็เป็นไปได้เพราะมีปริมาณเชื้อที่น้อยมาก ได้ส่งตัวอย่างตรวจเพิ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์สุราษฎร์ธานี อีกครั้ง หากผลเป็นบวกแสดงว่าเชื้อน้อยมาก แต่หากผลเป็นลบแสดงว่าการตรวจเจอครั้งแรกนั้นเป็นระยะท้ายของโรค แม้ผลเป็นลบ แต่ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฐานผ่าฝืนมาตรการป้องกันควบคุมโรค

ปัญหาคือ แม้เชื้อจะอ่อนแรงแต่ก็ยังเป็นเชื้อ และคนอื่นๆไม่ได้อ่อนแรงตามเชื้อ นี่คือความหละหลวมและเป็นช่องโหว่ ซึ่งช่องโหว่เช่นนี้จะทำให้เชื้อแพร่กระจายออกไปในทิศทางที่เราควบคุมไม่ได้ มาตรการมีช่องโหว่ต้องหาทางแก้

มาตรการเข้าเมืองไทย

1.ผู้เดินทางเข้าไทย ระงับเปิดรับผู้เดินทางเข้า ประเภท Test and Go และ Sandbox ชั่วคราว ยกเว้นภูเก็ต Sandbox และการเข้ามาแบบกักตัว ประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ตั้งแต่ 22 ธ.ค.64 - 4 ม.ค.65

2.ผู้เดินทางประเภท Test and Go ที่ได้รับอนุมัติแล้ว ประมาณ 200,000 คน จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ และมีมาตรการในการติดตาม ตรวจสอบสถานที่พำนัก รายงานและเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมื่อมีอาการ และตรวจหาเชื้อในครั้งที่ 2

3.ผู้เดินทางประเภท Sandbox ที่ได้รับอนุมัติแล้ว ดำเนินการต่อเนื่อง ให้จังหวัดติดตามการออกนอกจังหวัดติดตั้ง App หมอชนะ ตรวจครั้งที่ 2 ให้ได้ 100% ให้โรงแรมนัดหมาย วัน-สถานที่ เข้ารับการตรวจ

4.ปรับการตรวจ เป็น RT-PCR 2 ครั้ง โดยกำหนดจุดตรวจครั้งที่ 2 ให้ และไม่เสียค่าใช้จ่าย

ตอนนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์พบแล้ว ตรวจครั้งแรกไม่เจอ ไม่เจอไม่ใช่หมายความว่าไม่ติดเชื้อ ตรวจครั้งที่ 2 หลังจาก 5 วันหลังจากนั้นดูว่ายังมีสุ่มเสี่ยงอยู่หรือไม่

แนวปฎิบัติตามมาตรการป้องกันควบคุมโรค

1. ก่อนเข้าไทยต้องศึกษารายละเอียด ลงทะเบียน Thailand Pass ปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กำหนด

2. หลังเข้าไทยมาแล้ว ต้องเข้ารับการตรวจวัดอาการ ติดตั้งAPP หมอชนะหลังตรวจหาเชื้อต้องอยู่ในห้องพักเท่านั้น

3. ระหว่างการเดินทางในประเทศให้ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

จำนวนผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย

นี่คือสถิติโควิดที่คุกคามคนไทยอยู่ในขณะนี้

ตอนนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโอมิครอน ในประเทศไทยมีหลากหลายพื้นที่ในประเทศไทย อีกหนึ่งมาตรการที่กำลังกายเป็นความเสี่ยง นั่นคือช่องโหว่ตามช่องทางธรรมชาติ ตอนนี้มีคำสั่งให้ฝ่ายความมั่นคงดูแลตะเข็บชายแดนแบบซีล

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาบอกว่า ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ เพราะเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่เราสั่งการให้ทำงานเข้มข้นขึ้น

ชาวเมียนมาที่หลบหนีภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดน ที่ตอนนี้กำลังสู้รบอยู่ ระหว่าง 16-21 ธ.ค. 2564 อ.แม่สอด จ.ตาก รวม 4,216 คน เดินทางกลับแล้ว 861 คน ยังอยู่ในไทยรวม 3,355 คน

• ต.แม่ตาว 2,075 คน

• ต.มหาวัน 1,221 คน

• ต.แม่กุ 59 คน

ในพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นช่องทางตามธรรมชาติ ยังมีปัญหาการลักลอบเข้าไทย คุณค่าทางเศรษฐกิจของประเทศหายไปเป็นล้านล้าน GDP ประเมินเมื่อปี 64 โตแค่ 1% ปี 65 เราคาดการณ์จะโต 3.5-4% ถ้ายังลักลอบเข้าไทย GDP ปีหน้าเลิกฝัน รายได้ท่องเที่ยวที่น่าหวงที่สุดปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 3.8 แสนล้านบาท ปีหน้าคาดว่าจะขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านบาท ถ้าโอมิครอนอาศัยช่องโหว่เข้ามาต้องปรับใหม่

นี่คือเรื่องใหญ่ที่เราต้องคิดถึงปากท้องของผู้คน วันนี้กทม.ออกมาตรการที่หลายคนตกตะลึง แต่ต้องเป็นมาตรการเชิงรุกทีเดียว ตอนนี้กทม.ให้ยุติการ countdown ขณะเดียวกันวิงวอนไปที่เอกชนให้งดด้วย ไม่ได้ห้ามแต่ขอร้อง

คำขอร้องจะส่งความหมาย เมื่อทุกมือทุกไม้ ร่วมกันปฏิบัติ WHO บอกว่าเราต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน ช่องโหว่จากโอมิครอนจะคุกคามคนไทยแค่ไหนอยู่ที่ความร่วมมือ