แถลงการณ์ของโมเดอร์นา (Moderna) ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดเอ็มอาร์เอ็นเอ-1273 (mRNA-1273) โดสกระตุ้น ซึ่งปัจจุบันได้รับอนุมัติให้ฉีดในปริมาณ 50 ไมโครกรัม ช่วยเพิ่มระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน ประมาณ 37 เท่า เมื่อเทียบกับระดับก่อนฉีดโดสกระตุ้น ขณะวัคซีนโดสกระตุ้นปริมาณ 100 ไมโครกรัม เพิ่มระดับแอนติบอดีลบล้างฤทธิ์ประมาณ 83 เท่า
บริษัทฯ ระบุว่าวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสกระตุ้น ปริมาณ 100 ไมโครกรัม มีความปลอดภัยและต้านเชื้อไวรัสฯ ได้ดี ทว่ามีแนวโน้มนำไปสู่อาการข้างเคียงบ่อยขึ้นเล็กน้อยหลังฉีด ซึ่งสัมพันธ์กับวัคซีนโดส กระตุ้น ปริมาณ50 ไมโครกรัม ที่ได้รับอนุมัติการฉีด
สเตฟาน บ็องเซล ประธานกรรมการบริหารบริษัทฯ กล่าวว่าเพื่อรับมือเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่เชื้อได้สูง โมเดอร์นาจะเดินหน้าพัฒนาวัคซีนโดสกระตุ้นที่ต่อต้านเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน สู่การทดลองทางคลินิก หากมีความจำเป็นในอนาคต
ทั้งนี้ เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งอาจติดต่อได้ง่ายกว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์เดลตา ถูกตรวจพบในอย่างน้อย 47 รัฐของสหรัฐฯ เมื่อนับตั้งแต่มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอมิครอน รายแรกของประเทศในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. จนถึงวันที่ 19 ธ.ค.