"ไทม์ไลน์"ติดเชื้อโอมิครอนคลัสเตอร์แสวงบุญ

จากกรณีพบการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ในประเทศไทย เฉพาะวานนี้ (19 ธ.ค.64) จำนวน 14 คน นายปรีดา เชื้อผู้ดี ที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี เปิดเผยว่า คนจากชุมชนท่าอิฐ จ.นนทบุรี และจากพื้นที่ต่างๆ ประมาณ 31 คน เดินทางไปแสวงบุญวันที่ 1 ธ.ค.64 เครื่องออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา ตี 1 ไปถึงประเทศซาอุอาระเบีย วันที่ 2 ธ.ค.64 เพื่อทำพิธี ประมาณ 15 วัน เริ่มมีอาการตัวร้อน เป็นหวัดหลายคน และอาการไม่ดี เนื่องจากอากาศแห้งแล้ง ประกอบกับกับมีผู้เเสวงบุญทั่วโลกหลายแสนคนคาดว่าอาจจะติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน จากตรงนั้น

คณะกลับมาที่ประเทศไทยในวันพุธที่ 15 ธ.ค. 64 และมาค้างที่กรุงโรฮาประเทศอาหรับประมาณ 8 ชม. จึงบินกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประมาณเที่ยง และมีอาการไม่ดีจึงไปพักที่ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง และเปลี่ยนไปที่โรงแรมอันมัส และไปสวอปที่รพ.วิภารามผลออกมาประมาณ 01.00 น. วันที่ 16 ธ.ค.64 พบติดเชื้อ 14 คน แยกเป็นโอมิครอน 6 คน และเพิ่มอีก 1 เป็น 7 ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงสูงอีก 6 คน 

สำหรับชาวท่าอิฐ นายปรีดา เตือนพี่น้องประชาชนว่า ไม่ต้องอายโรคนี้ต้องช่วยกันดูแลจะได้ป้องกัน จะต้องบอกความจริง เพราะเชื้อตัวนี้ลามเเรงมาก แม้ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนทุกคนในนี้ได้ฉีดวัคซีนและบูสเตอร์เข็ม 3 ทั้งหมดแล้ว อยากฝากให้ทุกคนจะต้องเว้นระยะห่าง ฝากให้ท่านที่จะเดินทางไปแสวงบุญให้ระวังอย่าประมาทเพราะเชื้อติดเร็วมากกว่าปากติ

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณผู้ประกอบการ ที่เอาผู้แสวงบุญกลับมา มาลงที่ประเทศไทย ถ้าอยู่รักษาตัวที่ซาอุฯ คงจะยากลำบาก เพราะการรักษาที่ซาอุฯ คงสู้ที่ประเทศไทยไม่ได้ 

ด้านนางวนิดา สุขประเสริฐ กล่าวว่าพึ่งรู้รับทราบจากประเทศไทยว่าลูกสาวติดเชื้อ แต่รู้อาการว่าติดตั้งแต่ประเทศซาอุฯ และมีอาการเจ็บแสบคอ ตนจึงแนะนำให้สวอป ดูก่อนแต่พอใกล้จะกลับจะมีการสวอป พบว่าขึ้น 2 ขีด หัวหน้านำทัวร์ให้กลับมารักษาที่ประเทศไทย ส่วนยาย มาทราบผลสวอปที่เมืองไทยว่าติดโควิด-19 แต่ยังไม่ปราากฏว่าเป็นเชื้อของอะไร ซึ่งตอนนี้ตนเป็นห่วงและคิดถึงทั้ง 2 คน ยังไงต้องกล้บมารักษาบ้านเรา ทำได้แต่ส่งกำลังใจให้ ตอนนี้ต้องขอขอบคุณท่านที่ปรึกษาที่อำนวยความสะดวกสบายในการดำเนินการ ซึ่งในตอนนี้อาการลูกสาวดีขึ้นแล้วมี เอ็กซเรย์ปอด ตรวจเลือดอาการก็ดีขึ้นตามลำดับ เริ่มมีหน้าตาสดใสขึ้น กว่าอยู่ที่ประเทศซาอุฯ