WHO อนุมัติ “โนวาแวกซ์” ช่วยชาติยากจนเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด
ทางองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้อนุมัติฉุกเฉิน วัคซีนต้านโควิดของบริษัท โนวาแวกซ์ ภายใต้ชื่อวัคซีน “โควาแวกซ์” (Covavax) ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลกเพื่อช่วยให้ชาติยากจนสามารถเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ส่งตรงจากจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันนี้ (18 ธ.ค. 2564 ) ว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รับรองการใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินให้กับวัคซีนต้านโควิด-19 ของ บริษัทโนวาแวกซ์ จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งผลิตโดย สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (SII) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยใช้ชื่อทางการค้าว่า "โควาแวกซ์" (Covavax)
ทั้งนี้ WHO คาดหวังว่า การอนุมัติฉุกเฉินให้แก่ วัคซีนโควาแวกซ์ ซึ่งเป็น วัคซีนตัวที่ 9 ที่ WHO ให้การรับรอง จะช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มประเทศยากจนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้มากยิ่งขึ้น
อ้างอิงจากข้อมูลของ WHO ชี้ว่า ปัจจุบัน มี 41 ประเทศที่ยังฉีดวัคซีนให้แก่ประชากรครอบคลุมได้ไม่ถึง 10% และยังมีอีก 98 ประเทศที่มีประชากรฉีดวัคซีนครบโดสยังไม่ถึง 40%
อย่างไรก็ตาม โนวาแวกซ์และ SII ต่างพร้อมใจให้คำมั่นว่า จะจัดส่งวัคซีน 1,100 ล้านโดสให้กับโครงการโคแวกซ์ของสหประชาชาติที่ WHO ให้การสนับสนุน จัดสรรวัคซีนมอบให้กับประเทศรายได้น้อยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม
สื่อต่างประเทศรายงานอีกว่า
วัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทโนวาแวกซ์ ที่ผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย หรือ SII นั้น ใช้ชื่อทางการค้าว่า “โควาแวกซ์” แต่สำหรับวัคซีนที่บริษัทโนวาแวกซ์ผลิตเองจะใช้ชื่อ "นูวาโซวิด" ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินโดยองค์การยาแห่งสหภาพยุโรป ( EMA) และหลังจากนี้ WHO จะสรุปผลการประเมินของตัวเอง เมื่อ EMA มีมติต่อวัคซีนตัวนี้ออกมาแล้ว
สำหรับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของ โนวาแวกซ์ สามารถให้ประสิทธิผลในภาพรวม 90.4% โดยสามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนากลายพันธุ์ “หลายสายพันธุ์” ตามการเผยแพร่ข้อมูลสำคัญจากผลการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.2564 ที่ผ่านมา
