svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ลุงเขยหื่นขืนใจหลานนานกว่าครึ่งปี ขู่ฆ่าหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น

15 ธันวาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ไนำกำลังเจ้าหน้าที่มายังบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมรับตัวเด็กสาวและญาติผู้เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำ พฤติกรรมของลุงเขยรายนี้ชอบจับเนื้อต้องตัวหลาน

15 ธันวาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน หลังได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียหายว่า มีเหตุข่มขืน กระทำชำเราขึ้นบริเวณ ม.4 ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือนายวี (นามสมุติ) ได้อุ้มบุตรสาวอายุ 1 ปีเศษ เดินออกไปจากบ้าน ภายหลังก่อเหตุข่มขืนหลานสาว อายุ 11 ปี ที่อยู่ภายในบ้าน จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอ่างทอง เพื่อขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าช่วยเหลือลูกสาวที่ผู้ก่อเหตุอุ้มไป โดยได้รับแจ้งจากแม่เด็กว่า ผู้ต้องหาอุ้มลูกเดินออกไปทางด้านหน้าปากซอย บริเวณริมถนนสายเอเซีย จากนั้นผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่กู้ภัยอ่างทอง จึงรีบออกไปยังสถานที่ ที่ได้รับแจ้ง พบผู้ต้องหากำลังอุ้มลูกเดินอยู่ริมถนนบริเวณสายเอเชีย ผู้สื่อข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย จึงเข้าไปพูดคุยพร้อมทั้งพยายามนำลูกสาวออกมาสู่อ้อมอกแม่ที่รอคอยอยู่บนรถ

ลุงเขยหื่นขืนใจหลานนานกว่าครึ่งปี ขู่ฆ่าหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น ลุงเขยหื่นขืนใจหลานนานกว่าครึ่งปี ขู่ฆ่าหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นกับผู้ต้องหา คือนายวี (นามสมมุติ) โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาอ้างว่า ในช่วงเย็นตั้งแต่เลิกงานได้กลับเข้าบ้านและเข้าครัวทำอาหาร จากนั้นจึงออกมานั่งดูโทรทัศน์ ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า เหตุใดเด็กสาวผู้เป็นหลานถึงมีอาการร้องไห้ไม่หยุด ผู้ต้องหากล่าวว่า ตนเองได้ตีหลาน เนื่องจากหลานไม่ยอมทำงานบ้าน ชอบนอนตื่นสาย ใช้งานอะไรไม่ค่อยทำ อีกทั้งยังชอบเถียงเวลาว่ากล่าวจึงได้ลงไม้ลงมือ ผู้สื่อข่าวจึงถามอีกว่า เกิดเหตุการณ์อะไรถึงทะเลาะกับคนภายในบ้านแล้วอุ้มลูกออกมา โดยผู้ต้องหากล่าวว่า คนที่บ้านได้กล่าวหาว่าตนเองมีเพศสัมพันธ์กับหลานสาวอายุ 11 ปี ที่มีการพูดถึงก่อนหน้านี้ จึงรู้สึกไม่พอใจ พร้อมทั้งกล่าวอ้างว่าตนเองต้องคอยทำกับข้าวให้ทุกคนกิน ทำไมต้องมากล่าวหากัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้นำผู้ต้องหามายังสถานีตำรวจภูธรเมืองอ่างทอง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอ่างทอง ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่มายังบ้านที่เกิดเหตุ พร้อมรับตัวเด็กสาวและญาติผู้เห็นเหตุการณ์ไปสอบปากคำ พร้อมทั้งติดต่อไปยังพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง เพื่อเชิญเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กเพื่อร่วมดำเนินการให้ความช่วยเหลือ

ลุงเขยหื่นขืนใจหลานนานกว่าครึ่งปี ขู่ฆ่าหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น
 

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวทราบว่า ระหว่างที่ผู้ต้องหาก่อเหตุนั้น ได้กระทำต่อหน้าคนแก่คนหนึ่ง โดยคุณยายจันทร์ (นามสมมุติ) อายุ 70 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ผู้ต้องหาได้ข่มขู่ว่า อย่าเอะอะเสียงดังและอย่าบอกใคร ไม่อย่างนั้นจะเอามีดฟันคอฆ่าให้ตาย ด้วยความกลัวยายจึงไม่กล้าร้องตะโกน ได้แต่มองดูหลานถูกกระทำจนน้ำตาไหลออกมา คุณยายเล่าต่ออีกว่า เวลาผ่านไปนานพอสมควร จนมีคนเข้ามาบ้านซึ่งเป็นป้าของเด็กหญิง และอีกคนที่ภรรยาของผู้ก่อเหตุกลับเข้ามาบ้าน หลังจากออกไปซื้อของ เมื่อเปิดประตูเข้ามาเห็นคนร้ายจึงได้หยุด
นางเอ (นามสมมุติ) ผู้เป็นป้าเล่าให้ฟังว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุ ตนเองและภรรยาของผู้ต้องหา ออกไปซื้อโซ่และของใช้อื่นๆ ข้างนอก พอกลับเข้ามาเห็นผู้ต้องหาคร่อมอยู่บนตัวหลาน ก็เกิดบันดาลโทสะ เอาถุงที่มีโซ่อยู่ด้านในฟาดลงไปกลางหลังอย่างเต็มแรง ทำให้ผู้ต้องหาตกใจ รีบลุกขึ้นและวิ่งออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองพอจะระแคะระคายเรื่องนี้มาบ้าง แต่จับไม่ได้คาหนังคาเขา ครั้งนี้มาเจอเข้าจังๆ ซึ่งเป็นห่วงก็แต่หลานที่ต้องมาตกเป็นเหยื่อกับลุงใจหื่นคนนี้ ซึ่งตนเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้านเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ได้เล่าถึงพฤติกรรมของลุงเขยรายนี้ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ชอบจับเนื้อต้องตัวตั้ง แต่ยายเสียไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขู่ต่างๆ นาๆ พร้อมทั้งทำร้ายร่างกายจนตัวเองทนไม่ไหว ต้องยอมฝืนทนถูกกระทำมาโดยตลอด โดนลุงเขยข่มขืนมาแล้วหลายครั้ง อยากจะบอกแต่ก็โดนขู่ฆ่า ซึ่งตนเองก็กลัวจนไม่กล้าที่จะบอกใคร เด็กสาวเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตา

ลุงเขยหื่นขืนใจหลานนานกว่าครึ่งปี ขู่ฆ่าหากนำเรื่องไปบอกคนอื่น

ข่าว-ภาพ โดย สุรชัย ผลจันทร์

logoline