“ลุงโสภัณฑ์” ชื่นใจสังคมช่วย เผยเมียถูกตะขาบกัดจนพิการ ก่อนตายบนวีลแชร์

จากกรณีที่ นายโสภัณฑ์ อย่าเสียสัตย์  อายุ 56 ปี ชาวสุรินทร์ เข็นรถวิลแชร์ พาน.ส.พัชรี แซ่ลี้ อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดเลย ภรรยาที่พิการออกหางานทำ จนภรรยาเสียชีวิตคารถวิลแชร์ บริเวณใกล้เคียงห้างบิ๊กซีลาดพร้าว เมื่อวานที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้(25 พ.ย.64) นายโสภัณฑ์ อย่าเสียสัตย์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ พม. เดินทางเข้ารับศพ น.ส.พัชรี แซ่ลี้  เพื่อไปบำเพ็ญกุศลที่วัดลาดพร้าว

นายโสภัณฑ์ เปิดใจว่า รู้สึกเสียใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ แต่ไม่ติดใจการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าภรรยาคงหมดอายุไขแล้ว   ส่วนตนกับภรรยานั้นอยู่กินกันมาได้เพียง1ปีเศษ โดยรู้จักกันที่วัดสวนแก้ว เนื่องจากภรรยาทำงานเป็นคนสวนภายในวัด  แต่โชคร้ายระหว่างที่ภรรยากำลังทำงานอยู่นั้นถูกตะขาบกัด 2 ครั้ง  

ครั้งแรกที่ถูกตะขาบกัดทำให้ให้ภรรยากลายเป็นอัมพาตด้านซ้ายครึ่งตัว โดยที่ไม่ยอมไปโรงพยาบาล ต่อมาอีก3วัน ถูกตะขาบกัดซ้ำอีก1ครั้ง จึงได้นำตัวส่ง รพ.ภูมิพลฯ รักษาตัวถึง15วัน แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงต้องนำตัวกลับมารักษาตัวเองที่ห้องพักในวัดสวนแก้ว  

หลังจากนั้นได้ขอทางวัดออกมาใช้ชีวิตส่วนตัวภายนอกเนื่องจากภรรยาไม่สามารถทำงานสวนได้ แต่ตนก็ไม่คิดจะทอดทิ้งแม้ว่าภรรยาจะพิการ  โดยพากันมาอาศัยอยู่ที่เพิ่งพัก ย่านคลองหลอด ก่อนจะออกมาเร่ร่อนหางานทำ โดยเข็นรถวิลแชร์นำภรรยาตะเวนเก็บขยะ หรือผักบุ้ง ขายหารายได้ประทังชีวิต 

จนกระทั่งก่อนวันเกิดเหตุในช่วงเช้าภรรยาบ่นว่าปวดท้อง ซึ่งตนก็หาอาหารให้กิน แต่ภรรยาปฏิเสธ จึงได้พากันออกเดินทางมาเรื่อยๆจนมืด จึงนอนพักที่บริเวณร้านสะดวกซื้อ ย่านลาดพร้าว จนเวลาตี3 ภรรยาตื่นมาถามว่าเวลากี่โมงแล้ว แต่ตนเองไม่ได้ตอบ จนกระทั่งตี 4 ตนตื่นมาก็พบว่าภรรยาเสียชีวิต ตัวเย็น ไม่มีชีพจร จึงได้ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ พม.เขตดินแดง ได้เข้าสอบถามรายละเอียดพร้อมให้การช่วยเหลือ ซึ่งจากการพิจารณาแล้วพบว่า นายโสภัณฑ์ เข้าเกณฑ์ในการช่วยเหลือและสามารถที่จะประกอบอาชีพได้ จึงได้ว่างแนวทางในการช่วยโดยจะประสานกับบริษัทรักษาความปลอดให้ไปปฏิบัติหน้าที่เป็น รปภ.เนื่องจากมีค่าจ้าง และเบี้ยเลี้ยงพร้อมที่พัก ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ชีวิตของนายโสภัณฑ์ไม่ต้องเร่รอนอีก

ทั้งนี้หลังจากที่ลุงโสภัณฑ์ ได้รับการช่วยเหลือจากหลายฝ่ายพร้อมเปิดเผยควมมรู้สึกว่าดีใจที่มีงานทำ มีอนาคตใหม่ โดยยืนยันว่าตนเองร่างกายแข็งแรง และพร้อมที่จะทำงานเลี้ยงชีพ

เบื้องตนสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบหายใจ ไหลเวียนโลหิตล้มเหลว  ซึ่งหลังจกานี้จะนำร่างของผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดลาดพร้าวต่อไป