จังหวัดตราด ป.ป.ช. และป.ป.ท. วิเคราะห์ข้อเท็จจริงในกรณีทรัพยากรธรรมชาติที่เสี่ยงต่อการทุจริต ในพื้นที่เกาะช้าง ประกอบด้วย กรณีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่อุทยานของภาคเอกชน ตลอดจนกรณีปัญหาการถือครองพื้นที่ทับซ้อนระหว่างพื้นที่ของรัฐกับพื้นที่ของชุมชน
โดยร่วมกันวิเคราะห์ข้อเท็จจริงสภาพปัญหาความเสี่ยงต่อการทุจริตเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อจัดทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างสำนักงาน ป.ป.ช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ให้เกิดกระบวนการต้านและลดโอกาสเกิดการทุจริตอย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับประเด็นความเสี่ยงต่อการทุจริตในพื้นที่เกาะช้าง ประกอบด้วย กรณีการออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินโดยมิชอบ การบุกรุกพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่อุทยานของภาคเอกชน ตลอดจนกรณีปัญหาการถือครองพื้นที่ทับซ้อนระหว่างพื้นที่ของรัฐกับพื้นที่ของชุมชน
ผลการลงพื้นที่ร่วมกันได้ข้อสรุปเป็นข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะช้างอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ดังนี้
- ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด กำหนดนโยบายให้ความสำคัญสูงสุดกับการรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติบนเกาะช้าง โดยให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และพร้อมจะประสานแก้ไขปัญหาให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช.
- หน่วยงานภาครัฐที่ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้แก่ ปลัดจังหวัด สำนักงานจังหวัดตราด นายอำเภอเกาะช้าง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 ชลบุรี สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สำนักงานที่ดินจังหวัด และผู้แทนจากสำนักงาน ป.ป.ท.เขตพื้นที่ 2 ร่วมทำข้อตกลงจะปฏิบัติงานอย่างถูกต้องโปร่งใส และให้ข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงาน ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ท.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง >> ยึดไม้มะค่าโมง อายุ 200 ปี ถูกลักลอบตัดที่ จ.น่าน
- สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 2 และสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตราด จะสนับสนุนให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในพื้นที่อย่างเป็นกลาง เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต บนเกาะช้าง ให้มีบทบาทในการจับตามองและแจ้งเบาะแสการทุจริตอย่างเข้มแข็ง
ในส่วนของสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง ที่ดำเนินการภายใต้โครงการต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์ เฉพาะกรณีพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (STRONG Together against Corruption - TaC) หรือโครงการ TaC Team จะได้นำประเด็นปัญหาของเกาะช้างไปดำเนินการ ดังนี้
- ผลักดันและติดตามมาตรการป้องกันการทุจริต รวมทั้งเสนอมาตรการป้องกันการทุจริตให้เท่าทันพลวัตที่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์การทุจริตที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติของประเทศให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
- มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม
- เสริมสร้างการรณรงค์ให้ความรู้ผ่านสถานศึกษาและการรวมกลุ่มของภาคประชาชนเพื่อผลักดันการใช้หลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
- การสื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วนในสังคม เพื่อสร้างกระแสให้เกิดพลังร่วมต่อต้านการทุจริต ผ่านการผลิตซีรีส์สารคดีถ่ายทอดเรื่องราวการร่วมแก้ไขปัญหาบนเกาะช้าง ตามแนวทางต้านและลดการทุจริตด้วยกลไกสหยุทธ์
ทั้งนี้ ในส่วนของการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษา คณะ TaC team ได้ลงพื้นที่โรงเรียนเกาะช้างวิทยาคม กำกับติดตามการนำหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาไปใช้และประเมินผลสัมฤทธิ์หลักสูตรต้านทุจริตศึกษา พร้อมทั้งให้คำปรึกษา แนะนำ และรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูผู้สอน เพื่อพัฒนาและขยายผลการขับเคลื่อนหลักสูตรต้านทุจริตศึกษาให้บรรลุเป้าหมาย "เด็กและเยาวชนไทยมีพฤติกรรมที่ยึดมั่นความซื่อสัตย์สุจริต" อีกด้วย
สำหรับภาครัฐลงพื้นที่เกาะช้าง วิเคราะห์ข้อเท็จจริงในกรณีทรัพยากรธรรมชาติที่เสี่ยงต่อการทุจริต เพื่อให้ได้ข้อตกลงในการดำเนินการต่อไปของจังหวัด และงานการป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประกอบด้วย นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมคณะเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เกาะช้าง จังหวัดตราด ร่วมกับคณะ TaC Team จากสำนักงาน ป.ป.ช. นำโดยนายวัฒนชัย ส้มมี ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ภาค 2 นายอภิชาติ ปุณยธัญพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตราด พร้อมด้วย รศ.ดร.มาณี ไชยธีรานุวัฒศิริ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะที่ปรึกษาโครงการฯ และคณะผู้บริหารจากสำนักงาน ป.ป.ช. ส่วนกลาง รวมทั้ง พันตำรวจโท สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท.