ยึดไม้มะค่าโมง อายุ 200 ปี ถูกลักลอบตัดที่ จ.น่าน
ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ประสานงานสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ตรวจยึดไม้มะค่าโมงยักษ์ อายุ 200 ปี ถูกลักลอบตัด 2 ตัน เสียหายกว่า 1.9 ล้าน พร้อมยึดรถแบ็คโฮ 2 คัน
พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ประสานการปฏิบัติกับนายสมบูรณ์ ธีรบัณฑิตกุล ผอ. สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ และนายสักรินทร์ ปัญญาใจ ผอ.ศปป.3(ภาคเหนือ) บูรณาการหน่วยงาน และสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มนายทุนเข้าไปทำการตัดฟันโค่นล้มไม้หวงห้ามขนาดใหญ่ที่บริเวณป่ารอยต่อ อ.ร้องกวาง จ.แพร่ และ อ.เวียงสา จ.น่าน
หลังได้รับการร้องเรียน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางถึงบริเวณหลังหมู่บ้านห้วยน้ำอุ่น ต.อ่ายนาไลย อ.เวียงสา จ.น่าน ตรวจพบมีการลักลอบตัดฟันโค่นล้มไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่ จำนวน 2 จุด แต่ไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุ เนื่องจากมียามดูต้นทางแจ้งให้ผู้กระทำผิดรู้ตัวก่อนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปถึง
เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ โดยจุดที่ 1 บริเวณริมลำห้วยแก้ว พบรถแบคโฮ จำนวน 1 คันอยู่ในที่เกิดเหตุใกล้กับต้นไม้มะค่าโมง มีร่องรอยทำการขุดรากถอนโคนต้นไม้และใช้เลื่อยยนต์ตัดทอนไม้ท่อนจำนวน 31 ท่อน ปริมาตร 51.32 ลบ.ม. คิดเป็นเงินค่าเสียหาย จำนวน 1,796,200.-บาท
จุดที่ 2 ห่างกันประมาณ 100 เมตร บริเวณไร่ข้าวโพด พบรถแบคโฮจำนวน 1 คัน อยู่ในที่เกิดเหตุใกล้กับต้นไม้มะค่าโมงขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นล้มและตัดทอนเป็นท่อนจำนวน 4 ท่อน ปริมาตร 3.86 ลบ.ม. คิดเป็นเงินค่าเสียหาย จำนวน 135,100.-บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึไม้มะค่าโมงจุดที่ 1 และ 2 จำนวน 35 ท่อน ปริมาตรรวม 55.18 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงินรวม 1,931,300.-บาท พร้อมรถแบคโฮ จำนวน 2 คัน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ทั้งนี้ บริเวณที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่สาครฝั่งขวา โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมอยู่ในขบวนการด้วย คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกการตรวจยึดนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเวียงสาเพื่อติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
