24 พฤศจิกายน 2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ปลื้มกระแสการใช้จ่ายของประชาชน ผ่านมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐ ที่มีการเพิ่มวงเงินสนับสนุนในการลดภาระ การจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันของประชาชนและช่วยกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจ จากผลกระทบสถานการณ์โควิด-19 ทั้งโครงการคนละครึ่ง เฟส 3 โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ รวมทั้งเพิ่มกำลังซื้อในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
จากข้อมูล ณ วันที่ 22 พฤศจิกายน 2564 มีผู้ใช้สิทธิ์และยอดการใช้จ่ายของทุกโครงการ รวม 41.2 ล้านคน ยอดใช้จ่าย สะสม รวม 191,685.3 ล้านบาท แบ่งเป็น
1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 3 มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 26.13 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 169,488.9 ล้านบาท แบ่งเป็นส่วนที่ประชาชนจ่ายสะสม 86,115 ล้านบาท และรัฐร่วมจ่ายสะสม 83,373.9 ล้านบาท
2) โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 90,799 คน ยอดใช้จ่ายประชาชนสะสม 3,445.8 ล้านบาท และยอดใช้จ่ายด้วย e-voucher สะสม 184.5 ล้านบาท
3) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 13.55 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 17,123.1 ล้านบาท และ
4) โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ มีผู้ใช้สิทธิ์สะสม 1.43 ล้านคน ยอดใช้จ่ายสะสม 1,443 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มในโครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 3 และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ที่ขายอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านผู้ให้บริการฟู้ดเดลิเวอรี่แพลตฟอร์ม ล่าสุด มีจำนวนกว่า 75,000 ราย ประชาชนสามารถใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สำหรับโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ ยังสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.ยิ่งใช้ยิ่งได้.com หรือผ่าน g-Wallet บนแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” จนกว่าจะครบ 1 ล้านสิทธิ์
นายธนกร กล่าวต่อ ภาพรวมเศรษฐกิจได้กลับมาคึกคึก หลังจากรัฐบาลมีมาตรการผ่อนคลาย ซึ่งนายกฯ พอใจกระแสตอบรับและการใช้จ่ายของประชาชนที่มีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ออกมาใช้ชีวิตแบบ New Normal ซึ่งรัฐบาลยังคงมุ่งมั่นทำงานเพื่อ “พลิกโฉมประเทศไทย” ผ่านมาตรการต่างๆ ทั้งการเยียวยา ฟื้นฟูและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ซึ่งแต่ละโครงการได้รับเสียงชื่นชมจากต่างชาติ เช่น
โครงการคนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ฯลฯ ที่ทำให้ทั้งผู้ซื้อ ผู้รับบริการ และผู้ประกอบการ ตลอดจนร้านค้า หาบเร่ แผงลอย ต่างได้รับประโยชน์ สร้างเม็ดเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจ คู่ขนานไปกับนโยบายการเปิดประเทศ สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุนต่างชาติได้ จึงเชื่อมั่นว่าในอีก 1 เดือนข้างหน้า เศรษฐกิจไทยจะยิ่งคึกคัก เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนไทยทุกคนมีความสุขในเทศกาลปีใหม่อย่างแน่นอน