ฝ่ายความมั่นคงเกาะติดอย่างใกล้ชิด ครั้งนี้มีการทำผังเกี่ยวกับกบฏ การจัดสร้างของม็อบครั้งนี้เป็นการจัดโครงสร้างแบบแม่น้ำแปดสายไหลมารวมกันในจุดใดจุดหนึ่ง และขับเคลื่อนในทิศทางที่ตรงเป้าหมาย
ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าม็อบที่กดดันอยู่ข้างนอกนั้นเป็นแม่น้ำแปดสายที่ไหลมารวมอยู่ที่เดียวกัน ที่จะนำไปสู่การกดดันของรัฐบาล
กลุ่มแม่น้ำแปดสายไหลมารวมกันที่เดียวนั่นคือ ขับไล่ ประยุทธ์ และบทเรียนในช่วงที่ผ่านมา เวลาฝ่ายความมั่นคงพิจารณาเรื่องของพลัง แรงกดดันในเรื่องการขับเคลื่อนของม็อบ มีผลต่อกระบวนการพิจารณาและกระบวนการเดินเกมของรัฐบาลอย่างยิ่ง
แสดงว่าม็อบแม่น้ำแปดสาย แม้จะมีการรวมตัวกันแต่ยังขาดการขับเคลื่อนเป็นเนื้อเดียวกัน แต่มอบทั้งหมดยังไม่มีกองกำลังที่จะนำไปสู่ความรุนแรง อย่างไรก็ตามการประเมินม็อบท้องถนนที่กดดันรัฐบาลอยู่นั้น ฝ่ายความมั่นคงประเมินในหลากหลายรูปแบบ และนี่คือบทสรุปที่ประมวลออกมาว่าปัจจุบันเป็นเช่นไร
ฝ่ายความมั่นคงมองว่าเมื่อรัฐบาลเปิดประเทศแล้วจะทำให้คนไม่ค่อยสนใจม็อบ หันมาสนใจเรื่องปากท้อง สนใจเรื่องของเศรษฐกิจ นำไปสู่การชุมนุมในม็อบก็จะลดลงไปด้วย
ว่าด้วยเรื่องของเวลาที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งตอนนี้ต้องบอกว่าร้อนแรง หลังจากที่ราชกิจจานุเบกษาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะนำไปสู่การเลือกตั้งแบบบัตรสองใบ มีคำถามที่ตามมาคือเกมสองใบรอบนี้ ใครได้ ใครเสีย ตอนก่อนที่จะมีการนำเสนอรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลายพรรคก็บอกว่าตัวเองได้เปรียบ แต่ผ่านไประยะหนึ่งหลายพรรคเปลี่ยนวิธีคิด วิธีประเมินใหม่ เดิมที่คิดว่าได้เปรียบ มีบางพรรคเริ่มเสียเปรียบแล้ว
หัวใจสำคัญมันขึ้นอยู่กับกฎหมายลูก พ.ร.ป. ประกอบด้วย ทำให้ทุกพรรคคิดหาเทคนิคว่าจะร่างตรงนี้อย่างไร ลำพังแค่กฎกติกาเรื่องการเลือกตั้งบัตรสองใบ กระบวนการว่าด้วยเรื่องของการได้มาซึ่งผู้คุมกฎและวิธีการทำงานก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะบอกว่าใครได้เปรียบ ใครเสียเปรียบ แต่กว่าที่จะได้มาซึ่งบัตรสองใบเส้นทางนี้ไม่ง่าย
สาระหลักใหญ่ใจความของรัฐธรรมนูญฉบับที่มีการแก้ไข ที่จะนำไปสู่วิธีการเลือกตั้งผ่านระบบบัตรสองใบ
บัญชีรายชื่อส่วนใหญ่คือเรือพ่วง เอาคะแนนเขตกับคะแนนของพรรคมาบวก แล้วเป็นคะแนนตัวเอง และเป็นปาร์ตี้ลิสต์ แล้วปาร์ตี้ลิสต์ส่วนใหญ่ก็จะไปคว้าชัยที่ตำแหน่งรัฐมนตรี ในระยะที่ผ่านมาระบบการเลือกตั้งของประเทศไทยกลับไปกลับมา ประชาชนงงไปหมดว่าตกลงจะเอาอย่างไร มาดูระยะที่ผ่านมาที่มีการเลือกตั้ง
นี่จึงเป็นปัญหาและนำมาสู่ระบบใหม่ซึ่งมีการประกาศราชกิจจาไปแล้วว่าเราจะเลือกตั้งบัตรสองใบ เค้าว่ากันว่าบัตรสองใบคนที่ได้เปรียบที่สุดคือแชมป์เก่า พรรคเพื่อไทย
หลังจากนี้ไปต้องรอลุ้น แล้วตกลงบัตรสองใบใครได้ใครเสีย
อาจารย์ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า
คุณสติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย บอกว่า
ไปฟังเลขาธิการพรรค ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า บอกว่า
กลยุทธ์ว่าด้วยเรื่องของการเลือกตั้งรอบนี้ ต้องพิจารณากันให้ดี
นอกเหนือจากกลุ่มเป้าหมาย คือผู้คุมกติการ ตอนนี้ กกต. 7 อรหันต์ ยังทำหน้าที่อยู่แต่เลขาธิการพรรคย้ายตัวเองไปเป็นส.ว. เรียบร้อยแล้ว ตำแหน่งเลขา กกต.สำคัญ แต่เลือกจะเป็นส.ว. แสดงว่าแรงกดดันสูง
คนที่จะไปคุมกฎต่อไปต้องมาจากการเปิดรับสมัครทั่วไป และกกต. ลงมติกันเมื่อไหร่ ก็จ้างเป็นเลขาธิการเมื่อนั้น
ที่มา เนชั่นอินไซต์ บากบั่น บุญเลิศ และ วีระศักดิ์ พงษ์อักษร