19 พฤศจิกายน 2564 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. และ พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา รอง ผกก.4 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย ว่าที่ พ.ต.ต.อัคนี ณ บางช้าง สว.กก.4 บก.ป.
จับกุม น.ส.ลดาวัลย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.49/2564 ลงวันที่ 1 ก.พ.2564 ในความผิดฐาน“ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณปลายปี 2563 น.ส.ลดาวัลย์ ผู้ต้องหา ได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้กับกลุ่มบุคคลผู้รับซื้อบัญชีธนาคาร ในราคา 2,000 บาท ต่อมาปรากฏว่า บัญชีธนาคารที่ผู้ต้องหาขายไป ถูกนำไปใช้รับโอนเงินจากการกระทำความผิด ซึ่งมีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จนมีการออกหมายจับผู้ต้องหา เมื่อผู้ต้องหารู้ตัวว่าถูกออกหมายจับ จึงหลบหนี โดยมีการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์อยู่บ่อยครั้ง จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ที่คอนโดฯ ย่าน ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ที่ผู้ต้องหามาเช่าได้ประมาณ 1 เดือน
จากการตรวจค้นรถยนต์และห้องพักของผู้ต้องหา พบสมุดบัญชีหลายธนาคาร ที่มีชื่อบุคคลอื่นเป็นเจ้าของจำนวน 25 เล่ม บัตรเบิกถอนเงินสดอัตโนมัติ( ATM) จำนวน 9 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือเครือข่ายต่างๆ ที่ยังไม่ได้เปิดใช้งานจำนวน 9 อัน และซองใส่ซิมการ์ดที่ไม่มีซิม จำนวน 24 ซอง จากการสอบสวน ผู้ต้องหารับว่า ของกลางทั้งหมดเป็นของผู้ต้องหาจริง โดยรับซื้อมาจากบุคคลอื่น ที่นำบัญชีธนาคารมาขายให้ เพื่อนำไปขายต่อให้กับผู้รับซื้อที่ทำงานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ในราคา 3,000 – 8,000 บาท โดยผู้ต้องหาทำมานานประมาณ 1 ปี โดยจะประกาศรับซื้อบัญชีธนาคารผ่านเฟซบุ๊ก ในกลุ่มต่างๆ
เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การ “ภาคเสธ” ว่า เมื่อประมาณปลายปี 2563 ได้ขายบัญชีธนาคารของตนให้แก่ผู้รับซื้อไปจริง แต่ไม่ทราบว่า ผู้ซื้อนำบัญชีไปหลอกลวง คือ บัญชีใด เนื่องจากขายไปหลายบัญชี