อธิบดีกรมอุทยานฯ เบรกดราม่า "‘โจโฉ-คมฉาน" ขู่จับทั้งคู่หากแอบเข้าป่า

     เพิ่งจะต้มมาม่าปูเสื่อรอนั่งดูเสร็จแท้ๆ  กณีดราม่าที่ “โจโฉ” ทรงธรรม สิปปวัฒน์ ยูทูปเบอร์ชื่อดัง ถูกเกรียนคีย์บอร์ดเข้าไปคอมเมนต์จับผิดคลิปการเดินป่า และกล่าวหาว่าทำคลิปหลอกคนดู จน "โจโฉ" ได้ตอบคอมเมนต์กลับโดยท้าวางเงินเดิมพัน 10 ล้านอยู่ป่า 10 วันให้ดู

     และดราม่าก็ยิ่งทวีความร้อนแรงขึ้น เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Komchan Kok ของ นายพรรณชัย คงสนิท นักเขียนชื่อดังนามปากกา "คมฉาน ตะวันฉาย" ได้โพสต์ซ้ำท้า "โจโฉ" ว่า ไม่ต้องถึง 10 ล้านหรอก ตนเอาวันละ 5,000 พอ จะให้นอนในป่ากี่คืนบอกมา ขอมีดอย่างเดียว ติดต่อขออนุญาต จนท.ที่ดูแลพื้นที่ป่าให้เรียบร้อย ตนจะเอาเงินซื้อเครื่องฟอกไตให้ รพ. ทำให้ภายหลัง  “โจโฉ” ได้ออกมารับคำท้า “คมฉาน ตะวันฉาย” ที่ระบุว่า จะให้เงินวันละ 5 พัน หากใช้ชีวิตอยู่ในป่ากี่คืนก็ได้แต่ต้องอยู่ในนั้นเพียงมีดเล่มเดียว เช่นเดียวกัน

     แต่ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ย.) นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดราม่าดังกล่าวว่า ปกติการเข้าไปอยู่ในป่า ต้องมีเป้าหมาย เช่น การลาดตระเวนพื้นที่ป่า โดยเจ้าหน้าที่ โดยเข้าไป 5-10 วัน แล้วแต่พื้นที่ แล้วแต่ภารกิจ พร้อมกับเสบียงอาหาร ไม่มีการไปเอาอาหารในป่าเด็ดขาด ยกเว้นพืชผัก เล็กๆ น้อยๆ แม้กระทั่งปลาในลำธาร เจ้าหน้าที่ก็หลีกเลี่ยงที่จะจับมากิน หรือวิถีชาวบ้านที่เข้าไปเก็บเห็ด เก็บผัก ซึ่งใช้เวลาไม่น่าจะเกิน 3 วัน 

     แต่นี่เป็นการท้าทายกันว่าใครจะเข้าไปอยู่ในป่า นาน 5 วัน 10 วัน ตนมองว่า มันไม่ใช่เรื่อง ในป่าเต็มไปด้วยอันตรายสารพัด ทั้งจากสัตว์ป่า หรือเข้าไปแล้วหลงป่า แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของเรา ที่ถือว่ามีความชำนาญในการใช้ชีวิตในป่าเองก็ยังเคยถูกช้างทำร้าย ถูกกระทิงทำร้าย ถูกงูกัด หรือการเข้าไปในป่าโดยไม่บอกเจ้าหน้าที่ แล้วหลงทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องจัดกำลัง กู้ภัย ออกตามหากันอีก แถมยังถูกต่อว่าอีกว่าปล่อยให้เข้าไปได้อย่างไร 

เอาเป็นว่า ผมบอกเลยว่า ไม่ควรมาท้าทายอะไรแบบนี้ และหากใครเข้าไปในป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต ผมจะจับทั่งคู่เลย เพราะไม่รู้ว่ามีดเล่มเดียว หรืออาวุธอื่นๆ ที่อาจจะนำเข้าไปในป่านั้น จะเอาเข้าไปทำอะไร อาจจะล่าสัตว์ หรือตัดไม้ก็ได้
 

     นายธัญญากล่าวว่า ทั้งนี้ การเข้าไปเที่ยวป่า ไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ เพราะพื้นที่อุทยานแห่งชาติเกือบทุกที่ เจ้าหน้าที่จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอาไว้ ส่วนเข้าไปจุดอื่นๆ ต้องแจ้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เช่น ศึกษา วิจัย สำรวจเส้นทาง ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเพจ Jocho Sippawat , Komchan Kok