svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

3 บริษัทผลิตวัคซีน ได้กำไรนาทีละ 2 ล้านบาท

17 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผลวิเคราะห์ล่าสุดพบว่า บริษัทผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ทั้งไฟเซอร์, ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา ทำกำไรรวมกันนาทีละ 65,000 ดอลลาร์หรือ 2 ล้านบาทเพราะความสำเร็จของวัคซีน ขณะที่ประเทศในกลุ่มยากจนที่สุดของโลกยังคงเข้าไม่ถึงวัคซีน

กลุ่มพันธมิตรวัคซีนของประชาชน (People's Vaccine Alliance) หรือ PVA แนวร่วมรณรงค์ให้เข้าถึงวัคซีนป้องกันโควิด-19ได้กว้างขึ้น เผยผลการวิเคราะห์ ซึ่งพบว่า ไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยาของสหรัฐฯ, ไบโอเอ็นเทค (BioNTech) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของเยอรมนี และโมเดอร์นา ( Moderna) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและผู้พัฒนายาของสหรัฐฯ ที่เป็นผู้ผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยใช้เทคโนโลยี mRNA มีกำไรรวมกัน 65,000 ดอลลาร์ (2 ล้าน 1 แสนบาท) ต่อนาที อันเนื่องมาจากการขายวัคซีนจำนวนมากให้แก่ประเทศที่ร่ำรวย ขณะที่พลเมืองในกลุ่มประเทศยากจนส่วนใหญ่ ยังไม่มีโอกาสเข้าถึงวัคซีน

 

 

3 บริษัทผลิตวัคซีน ได้กำไรนาทีละ 2 ล้านบาท

 

รายงานที่อ้างอิงการคำนวนจากรายงานผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้ ระบุว่า ทั้ง 3 บริษัททำกำไรก่อนหักภาษี 34,000 ล้านดอลลาร์ ในปีนี้ หรือ 1,000 ดอลลาร์ต่อวินาที, 65,000 ต่อนาที และ 93.5 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ซึ่งมาซ่า เซยุม เจ้าหน้าที่ PVA ประจำ ภูมิภาคแอฟริกา ระบุว่า "เป็นเรื่องน่าละอายที่บริษัท 2-3 แห่ง กอบโกยกำไรหลายล้านดอลลาร์ทุกชั่วโมง ขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำ มีประชาชนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ครบโดสแค่ 2%" ... ไฟเซอร์, ไบโอเอ็นเทคและโมเดอร์นา ใช้ระบบผูกขาดในการทำสัญญาขายวัคซีนกับรัฐบาลที่ร่ำรวยที่สุด เพื่อให้ได้กำไรสูงสุด ในขณะที่ประเทศยากจนถูกทอดทิ้ง

 

 

ไฟเซอร์กับไบโอเอ็นเทค ส่งวัคซีนไปยังกลุ่มประเทศรายได้น้อยไม่ถึง 1% ของวัคซีนที่ผลิตได้ ขณะที่โมเดอร์นาจัดส่งเพียง 0.2% ต่างจากแอสตร้า เซเนก้า (AstraZeneca) กับจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson) ที่กระจายวัคซีนในรูปแบบการไม่แสวงผลกำไร แม้ทั้ง 2 บริษัทจะประกาศว่า เตรียมปรับนโยบายเร็วๆ นี้ เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลง ขณะเดียวกัน ไฟเซอร์, ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา ที่รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐกว่า 8,000 ล้านดอลลาร์ ปฏิเสธที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับผู้ผลิตยาในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำ-ปานกลาง ผ่านองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่จะช่วยให้อุปทานเพิ่มสูงขึ้น ราคาวัคซีนถูกลง และสามารถปกป้องชีวิตผู้คยได้หลายล้าน

 

 

logoline