สาวเครียดจอดเก๋งบนสะพานก่อนโดดน้ำจมหาย ทิ้งลูกวัย 3 ขวบไว้ในรถ

กลางดึกวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 ร.ต.อ. รัศมี คำศรีแก้ว รอง สว.ส.ทล.1กก.8 บก.ทล.เข้าทำการตรวจสอบ รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด เฟียสต้า สีบรอนซ์ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ที่จอดบนสะพานข้ามคลองพระองค์เจ้าไชยาชิต บนถนนมอเตอร์เวย์ขาออกหลักกิโลเมตรที่ 28 ม.11 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ภายในรถพบเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ แต่ไม่พบคนขับ กระทั่งพบเจอคนหาปลาตะโกนบอกว่าได้ยินเสียงเหมือนมีอะไรตกลงไปในน้ำ จึงมั่นใจว่าคนขับกระโดดสะพานจมน้ำหายไป

เจ้าหน้าที่จึงให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงอายุ 3 ขวบ ซึ่งมีหน้าตาน่ารัก กำลังนอนหลับอยู่ภายในรถ โดยที่รถยังจอดติดเครื่องยนต์อยู่ ด้วยความห่วงหนูน้อยเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปลุกเด็กให้ตื่นเพื่อนำมาอยู่ในความดูแลของทางเจ้าหน้าที่ จากนั้นตำรวจจึงตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถจนกระทั่งทราบชื่อและเบอร์ติดต่อจึงประสานปลายทางให้ทราบข้อมูล

ขณะเดียวกันชุดกู้ภัยทางน้ำของมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุได้วางแผนการค้นหาและจัดส่งมนุษย์กบลงค้นหาร่างของคนขับรายนี้ ท่ามกลางความมืดและกระแสน้ำที่ไหลค่อนข้างแรง ประกอบกับมีผักตบชวาจำนวนมากทำให้การค้นหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก โดยใช้เวลางมค้นหาอยู่ประมาณ 3 ชม.จึงยุติภารกิจ

จากการสอบถาม นายไพรโรจน์ ศรแก้ว อายุ 35 ปี ชาวบ้านที่มานั่งตกปลาบริเวณริมคลองใต้สะพาน เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณห้าทุ่มครึ่งที่ผ่านมา ขณะที่ตกนั่งตกปลาอยู่ ได้ยินเสียงคล้ายกับมีของหนักตกลงมาในน้ำจนน้ำกระจาย ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นปลาฮุบ ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งผ่านไปหลายชั่วโมงพบว่ามีรถตำรวจทางหลวงมาจอดบนสะพานและทราบว่ามีรถจอดอยู่ จึงตะโกนบอกว่าตนเห็นมีอะไรบางอย่างตกลงมาในน้ำจนกระทั่งทราบว่าอาจเป็นคนขับรถกระโดดลงมาจากบนสะพาน

หลังเกิดเหตุไม่นานได้มีญาติของผู้ที่ก่อเหตุเดินทางมาถึง จากการพูดคุยกับมารดา ทราบว่า ผู้ที่หายไปบุตรสาวชื่อนส.ณิชชา เขมกรสุขจิตร อายุ 34 ปี พักอาศัยย่านหนองจอก ทราบจากตำรวจว่า ทิ้งลูกสาวไว้ในรถแล้วกระโดดน้ำจมหายไป 

โดยมารดา ยังเปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะมาจากความเคลียดของบุตรสาวกับเรื่องภายในครอบครัวที่มักมีปัญหากับสามีชาวจีน โดยแยกทางกันอยู่ในระยะหนึ่ง แล้วทั้งสองมีบุตรสาวด้วยกันหนึ่งคน ส่วนสามีกลับไปอยู่ที่ประเทศจีนที่ผ่านมา บุตรสาวจะเป็นโรคเครียดสะสมและเคยก่อเหตุทำร้ายลูกสาวมาแล้วถึงสองครั้ง จนต้องรับหลานมาดูแลที่บ้านพัก 

พอมาช่วงค่ำวันนี้ บุตรสาวได้โทรศัพท์มาว่าจะมารับลูก ซึ่งตนเองบอกไม่ให้ไปเนื่องจากห่วงความปลอดภัยของหลาน จนกระทั่งบุตรสาวเดินทางมาที่บ้านและแย่งหลานสาวมาจากอ้อมอกพาขึ้นรถขับออกมา โดยไม่ทราบว่าออกไปไหน และมาทราบอีกทีว่ามาก่อเหตุดังกล่าว 

ขณะที่บิดากล่าวว่า ยังโชคดีที่ไม่ได้พาหลานสาวก่อเหตุไปด้วย เนื่องจากบุตรสาวหากมีอาการเครียดกำเริบก็มักจะคุมสติตัวเองไม่อยู่