"รุ้ง ปนัสยา" ขึ้นศาลคดี ม.112 ใส่ครอปท็อปเดินห้าง

     วันนี้ (15 พ.ย.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ มีนัดพิจารณาคดีสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ไต่สวนคัดค้านการฝากขังครั้่งที่ 5 คดีมาตรา112 ของ เบนจา อะปัญ ปราศรัยหน้าบริษัทซิโน-ไทย ในม็อบ 10 สิงหา โดยศาลจะเบิกตัวเบนจามาศาลด้วย และ 2.นัดสอบคำให้การคดีใครๆ ก็ใส่ครอปท็อป ไปเดินสยามพารากอนมาตรา112 ของ "เพนกวิน-ไมค์-รุ้ง-เบนจา-ป๊อกกี้" ซึ่ง "รุ้ง ปนัสยา" จะต้องยื่นประกันตัวต่อศาลในคดีนี้ โดยวันนี้ ศาลจะเบิกตัวทั้งเพนกวิน-ไมค์-เบนจา มาขึ้นศาล 
ทั้งนี้ก่อนขึ้นศาล "รุ้ง ปนัสยา"  เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า วันนี้คงไม่มีอะไร เป็นเพียงนัดสอบคำให้การ และวันนี้มี "ไมค์ รุ้ง เพนกวิน เบนจา" เบิกตัวมาด้วย 

     ส่วนกรณีการชุมนุมวานนี้ (14 พ.ย.) "รุ้ง ปนัสยา" กล่าวว่า วานนี้ตำรวจทำเกินกว่าเหตุไปมาก เพราะการชุมนุมของเราแต่ละครั้งมีแผนชัดเจน เราบอกตั้งแต่แรกว่าจะเดินตั้งแต่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปสนามหลวง แต่เจ้าหน้ารัฐสกัดทุกช่องทาง ขนาดใช้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไม่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ไม่ให้ใช้อนุสาวรีย์ฯ  พอไปถึงแยกปทุมวัน ก็ยังมีการตอบโต้และการปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงสถานทูตเยอรมันก็ยังมีตำรวจขัดขวางให้เป็นเหตุเล็กๆ น้อย จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 

     "รุ้ง ปนัสยา" กล่าวอีกว่า อนาคตต่อไป เราคงต้องถามหาว่าการกระทำเหล่านั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำให้ประชาชนบาดเจ็บสาหัส ต้องถามกลับตำรวจว่าทำเกินกว่าเหตุ หรือเกินสัดส่วนหรือไม่ และเราจะไปถามหาคำตอบนั้นจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งตอนนี้ขอให้ผู้บาดเจ็บปลอดภัย 

     ส่วนเรื่องต่อต้านระบอบสมบูรณาญาวิทธิราชย์ ก็ตรงตัวตามความหมายของการต่อต้าน และมีคำพูดบางคำของคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้ประชาชนคิดได้ว่า สิ่งที่ออกมาในคำวินิจฉัยว่าประเทศเป็นระบอบกึ่งสมบูรณาญาสิทธิราชย์หรือไม่  และการชุมนุมวานนี้ ไม่ว่าจะมีการพยายามทำอะไรก็ตามหรือการเปลี่ยนแผลงประวัติศาสตร์ พวกเราประชาชนไม่เอาระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

     ส่วนความกังวลในส่วนของที่มีนักร้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษเอาผิดกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น "รุ้ง ปนัสยา" กล่าวว่า สำหรับพวกนักร้อง บางทีถ้าร้องไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคก็ไม่ต้องทำ ตนไม่รู้ว่าพวกเค้าอยากเป็นตำนานอะไรหรือเปล่าก่อนที่ชีวิตเขาจะสิ้นไป ตนว่าตำนานแบบนี้ไม่น่าจดจำ

     ตนยืนยันว่าจะล้มล้มระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เราต้องการให้มีประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขคงอยู่ โดยที่ข้อเสนอนั้นมีมาตั้งแต่ 10 ส.ค. 63 และเราก็พูดถึงทุกครั้ง เมื่อมีคนเข้าใจผิด เราต้องการให้มีการปรับแก้คือการปฏิรูปให้สถาบันกษัตริย์ยังคงอยู่ในสังคมอย่างสถาพร ตนไม่ได้กังวลอยู่แล้วเพราะไม่ได้มีเจตนาในเรื่องการล้มล้างการปกครอง เพราะไม่เคยใช่ มันไม่เคยใช่มาตลอด 

     ด้านนายกฤษฎางค์ นุตจรัส หรือ ทนายด่าง ทนายความเพื่อสิทธิในุษยชน กล่าวว่า ในพื้นฐานคำฟ้องเป็นล้อเลียนพระมหากษัตริย์ ถ้าเป็นไปตามมาตรฐาน "รุ้ง ปนัสยา" จะได้ประกันตัว เพราะคดีนี้ทุกคนก็ได้ประกันตัว และส่วนวันนี้จะมีการไต่สวนเบนจาครั้งที่ 5 ไม่รู้ว่าศาลจะให้ฝากขังต่อหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ขังเบนจามาแล้วกว่า 60 วัน