svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ชาวนากาฬสินธ์ุตากข้าวเปลือกชะลอขายหวังได้ราคาสูงกว่า 5 บาท

15 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกนาปีที่ตกต่ำ เพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ส่งผลให้ชาวนาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ชะลอการขาย นำเมล็ดข้าวเปลือกที่จ้างรถเกี่ยวไปตากแดดให้แห้ง หวังขายได้ราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 5 บาท

15 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวข้าวนาปี ของชาวนาใน จ.กาฬสินธุ์ ที่นิยมจ้างรถเกี่ยวข้าว ถึงแม้จะจ่ายค่าจ้างสูงถึงไร่ละ 800-1,000 บาท เนื่องจากรวดเร็ว ประหยัดเวลา โดยพบว่าเริ่มนำเมล็ดข้าวไปตากแดดให้แห้ง มากกว่าที่จะนำข้าวเกี่ยวสด ไปขายให้กับพ่อค้าคนกลาง ที่ยังกดราคารับซื้อที่กิโลกรัมละ 5 บาท ทั้งนี้การนำข้าวเปลือกแห้งไปขาย จะได้ราคาสูงกว่าข้าวสด เพราะจะไม่ถูกหักค่าความชื้น

ชาวนากาฬสินธ์ุตากข้าวเปลือกชะลอขายหวังได้ราคาสูงกว่า 5 บาท

 


    

นายบุญมี ภูบัวเพชร อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60  ชาวนาบ้านหนองทุ่ม หมู่ 1 ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกนาปีที่ตกต่ำ เพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ เกิดความเดือดร้อนให้กับชาวนาและผู้ประกอบการเกี่ยวกับข้าวเป็นอย่างมาก โดยตนเป็นทั้งชาวนาและเจ้าของรถรับจ้างขนส่งข้าว ปีที่ผ่านมาราคาขายข้าวเปลือกเริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 7-8 บาท ปุ๋ยถุงละ 800 บาท ค่ารถเกี่ยวไร่ละ 600 บาท ค่าขนส่งข้าวเที่ยวละ 300 บาท อยู่ในเกณฑ์พอดี ชาวนาและผู้ประกอบการพอจะยอมรับได้ ไม่เดือดร้อนเหมือนทุกวันนี้

ชาวนากาฬสินธ์ุตากข้าวเปลือกชะลอขายหวังได้ราคาสูงกว่า 5 บาท

บรรยากาศการเก็บเกี่ยวและขายข้าวเปลือกนาปีสำหรับปีนี้ ชาวนาทุกคนตลอดจนผู้ประกอบการทั้งรถเกี่ยวข้าว รถรับจ้างขนส่งข้าว ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะราคาขายข้าวเปลือกตกต่ำ ปุ๋ยเคมีและน้ำมันราคาแพง จนทุกวันนี้ไม่มีชาวนาคนใดอยากจะเอาข้าวไปขาย เพราะขาดทุน ดังนั้น หลังจากจ้างรถเกี่ยวเสร็จแล้วจึงเอาไปผึ่งแดด หรือตากแดดให้เมล็ดข้าวแห้ง โดยจะตากประมาณ 3 แดด เพื่อให้เมล็ดแห้งพอดี จากนั้นจึงจะนำไปขาย เพื่อหวังว่าจะได้ราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 5 บาท และราคาดีกว่าการขายข้าวเปลือกเกี่ยวสด เพราะจะไม่ถูกพ่อค้าคนกลางกดราคาหรือหักค่าความชื้น ซึ่งปกติจะได้ราคาสูงกว่าข้าวเกี่ยวสดกิโลกรัมละ 1-2 บาท

ชาวนากาฬสินธ์ุตากข้าวเปลือกชะลอขายหวังได้ราคาสูงกว่า 5 บาท


 

นายบุญมีกล่าวเพิ่มเติมว่า การนำเมล็ดข้าวเปลือกไปตากแดดให้แห้งดังกล่าว ยังเป็นการชะลอการขาย เพื่อรอทิศทางราคาข้าวเปลือกจะสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ตนซึ่งเป็นทั้งชาวนาและผู้ประกอบการขนส่งข้าวเปลือก เคยมีรายได้จากการขนส่งข้าวเปลือกจากแปลงนา ไปตากในหมู่บ้านเที่ยวละ 300 บาท ทุกวันนี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจเพื่อนชาวนา ที่ราคาขายข้าวตกต่ำ และแบกรับค่าใช้จ่ายสูง จึงคิดค่าบริการขนส่งไปตากในหมู่บ้านเพียงเที่ยวละ 100-200 บาท ตามระยะทางใกล้ไกล หรือหากจะรับจ้างขนส่งข้าวไปขายที่ลานรับซื้อ ระยะทางไปกลับประมาณ 40 กิโลเมตร คิดค่าจ้างเที่ยวละ 800 บาท

ชาวนากาฬสินธ์ุตากข้าวเปลือกชะลอขายหวังได้ราคาสูงกว่า 5 บาท

โดย - จักรพงษ์ ระวิวรรณ

 

logoline