นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำมาตรช่วยเหลือเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ได้อนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรปี 3 และมาตรการคู่ขนานเพิ่มเติม โดนเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. เป็นต้นไป ในข้าว 5 ชนิด เช่น ราคาข้าวเปลือกจ้าว ประกันอยู่ที่ 10,000 บาท เมื่อราคาต่ำกว่าเกณฑ์รัฐบาลก็จะช่วยชดเชยให้ จึงมั่นใจว่าแม้ข้าวในตลาด แต่รายได้เกษตรกรจะไม่ตก และมีรายได้ตามราคาประกัน
นายจุรินทร์ ยังชี้แจงถึงเหตุผลที่ทำให้ราคาข้าวตก ว่า ส่วนหนึ่งมาจากสถานการณ์น้ำท่วม กระทบต่อคุณภาพข้าว โดยเฉพาะเรื่องความชื้น จึงทำให้ราคาตกลง ซึ่งปัจจุบันข้าวที่มีความชื้นไม่เกิน 15% ตามมาตรฐานความขื้น ราคาจะอยู่ที่ 7,400-7,500 บาท/ตัน แต่ที่ราคาตกลงไปเหลือ 5,000 นั้น
“ปัญหาในเรื่องความชื้น จึงถูกกดราคา และโรงสีไม่ค่อยรับซื้อ จึงเป็นประเด็นที่ต้องแก้ไขต่อไป ”
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการให้ กรมการค้าภายใน ประสานงานกับโรงสี และ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เร่งดำเนินการจ่ายเงินประกันรายได้ให้กับเกษตรกรตามมติคณะรัฐมนตรี ให้โรงสีเก็บสต๊อกข้าวที่รับซื้อจากชาวนาไว้ โดยรัฐจะช่วยดอกเบี้ย 3%
ขณะเดียวกันตนเองได้ก็คุยกับกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคาร ธกส. ขอความร่วมมืออย่าให้มีอุปสรรคในการดำเนินการ พร้อมเพิ่มวันทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ ให้โรงสีดำเนินการได้เร็วขึ้น
สำหรับพื้นที่ใดที่มีโรงสีน้อย หรือ ไม่มีจุดรับซื้อ กระทรวงพาณิชย์ จะประสานกับกระทรวงเกษตร จัดจุดรับซื้อข้าวจากชาวนาเพิ่มเติม โดยให้ซื้อในราคาชี้นำตลาด เช่น ราคาข้าวในพื้นที่ เกวียนละ 6,800 ก็ให้รับซื้อ 6,900-7,000 แม้จะมีความชื้นมากก็ตาม
นอกจากนี้ เกษตรกร รายใดที่ผลิตข้าวได้แล้ว และเก็บข้าวไว้ในสต๊อก เพื่อให้ข้าวมีความขื้นลดลง ก็จะจ่ายเงินชดเชยตันละ 1,500 บาท เช่นเดียวกับ กลุ่มสหกรณ์ ที่เก็บข้าวไว้ รัฐก็จะชดเชยให้ตันละ 1,500 เช่นเดียวกัน โดยหวังว่ามาตรการทั้งหมดจะสามารถตรึงราคาข้าวให้ดีขึ้น
ส่วนการเร่งรัดการส่งออกนั้น นายจุรินทร์ ย้ำว่า กระทรวงได้ให้ความสำคัญ โดยร่วมมือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เร่งส่งออกข้าว ซึ่งสถานการณ์ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ที่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้ เพราะค่าเงินบาทเริ่มอ่อนตัวลง