จากกรณีที่คณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โรงพยาบาลขอนแก่น พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ได้เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารงานของ นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ต่อนพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น โดยระบุว่าการบริหารงานได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยนั้น
5 พฤศจิกายน 2564 ที่โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น ได้ชี้แจงกรณีที่มีการร้องเรียนว่า ในเดือนตุลาคมมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น พบว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นคลัสเตอร์หลายกลุ่ม เช่น คลัสเตอร์โรงงาน คลัสเตอร์ตลาด และคลัสเตอร์สถาบันการศึกษา เป็นต้น จนทำให้จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ ที่เป็นพื้นที่เฝ้าจับตามองของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งได้รับข้อมูลการระบาดที่เข้าสู่ชุมชนแล้ว จากนั้นผู้ตรวจราชการได้เดินทางมาที่จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งร่วมประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัด ในที่ประชุมได้พูดคุยกันในประเด็นเรื่องการปรับสภาพพื้นที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่อำเภอเมืองเพิ่มมากขึ้น
“จากประสบการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด พบว่าตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้การค้นหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คือ เครื่องมือตรวจหาเชื่อโควิด 19 แบบ Real time PCR ซึ่งต้องมีห้องทำงาน มีบุคลากร และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งทางสปสช.และกรมบัญชีกลาง ได้อนุมัติให้เบิกได้ ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ต้องใช้เวลาเพราะต้องมีมาตรฐานรองรับ จึงต้องวางระบบป้องกันการระบาดให้มากที่สุด เมื่อรู้ว่ามีกลุ่มผู้ติดเชื้อจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันที ต่อมามีการนำชุดตรวจเอทีเคมาใช้ในการตรวจหาเชื้อ ซึ่งการใช้ชุดตรวจเอทีเคนั้น ต้องเป็นชุดตรวจที่มีคุณภาพค่าความแม่นยำสูง ซึ่งทางนายแพทย์ สสจ.ขอนแก่นได้เน้นย้ำมาว่า ชุดตรวจเอทีเคต้องมีมาตรฐาน ไม่ได้ใช้ชุดตรวจเอทีเค แบบที่องค์การเภสัชกรรมซื้อ เพราะใช้ไม่ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำไปใช้พบว่ามีผลลวงสูง” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมได้ประสานให้เตรียมทีมลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ด้วยชุดตรวจเอทีเคให้มากที่สุด รับผิดชอบการดำเนินงานโดยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ซึ่งมีการพูดคุยกันเรื่องการซื้อชุดตรวจเอทีเคให้เพียงพอกับความต้องการ เมื่อสอบถามทาง นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น ระบุว่า ขณะนี้ทางจังหวัดขอรับการสนับสนุนจากท้องถิ่น แต่จนถึงวันนี้ท้องถิ่นยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อให้ หากรอเอทีเคจากท้องถิ่น ต้องไปดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องใช้เวลานาน ซึ่งรอไม่ได้ เพราะมีการแพร่ระบาด
“กรณีที่ต้องดูแลคนไข้เร่งด่วนฉุกเฉิน รัฐบาลมีระเบียบรองรับที่เรียกว่า ว.115 ซึ่งกรณีโรคระบาดนั้น ถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน การจัดซื้อตามแนวปฏิบัติเดิม ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามปกติได้ จึงยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดวงเงินการจัดชื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินการจัดชื้อจัดจ้างที่ไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือและระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดชื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ.2460 ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามข้อ79 วรรคสอง หากมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบๆ ข้อ 89(4) โดยให้จ่ายได้ตามเงื่อนไขที่ผู้ขาย หรือผู้รับจ้างกำหนด และยกเว้นการวางหลักประกันการรับเงินล่วงหน้าตามระเบียบฯ ข้อ 91 วรรคสอง จึงได้ดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค รวมทั้งการจัดหาพื้นที่รองรับการตรวจพีซีอาร์เพิ่มปริมาณการตรวจกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มขึ้น” นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าว
ในส่วนของการร้องเรียนนั้น นพ.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ได้ให้ทนายรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการฟ้องศาล ผู้ที่เดินทางยื่นหนังสือ รวมทั้งการขึ้นป้าย จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนั้นถือเป็นการใส่ร้ายผู้บังคับบัญชา ไม่ใช้เป็นการดำเนินการตรวจสอบตามปกติ ข้อมูลที่ให้เป็นเท็จ จึงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
โดย-กวินทรา ใจซื่อ