svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

ผอ.รพ.ขอนแก่นยืนยันบริหารงานโปร่งใสภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน

04 พฤศจิกายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผอ.รพ.ขอนแก่นยืนยันบริหารงานโปร่งใสภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน เตรียมเอาผิดกรณีที่มีการตรวจสอบและข่มขู่เจ้าหน้าที่เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิ และสร้างความเสียหายต่อโรงพยาบาล ให้ทนายดูรายละเอียดเตรียมหลักฐานฟ้องศาล

จากกรณีที่คณะกรรมการควบคุมภายในรับแจ้งเรื่องศูนย์ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ โรงพยาบาลขอนแก่น  พร้อมบุคลากรทางการแพทย์  ได้เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบการบริหารงานของ  นพ.เกรียงศักดิ์  วัชรนุกูลเกียรติ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น   ต่อนพ.ภาคี  ทรัพย์พิพัฒน์  นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น   โดยระบุว่าการบริหารงานได้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยนั้น 
5 พฤศจิกายน 2564 ที่โรงพยาบาลขอนแก่น นพ.เกรียงศักดิ์  วัชรนุกูลเกียรติ  ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น  ได้ชี้แจงกรณีที่มีการร้องเรียนว่า  ในเดือนตุลาคมมารับตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลขอนแก่น   พบว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นคลัสเตอร์หลายกลุ่ม เช่น คลัสเตอร์โรงงาน คลัสเตอร์ตลาด และคลัสเตอร์สถาบันการศึกษา  เป็นต้น จนทำให้จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ 1 ใน 3 ของประเทศ ที่เป็นพื้นที่เฝ้าจับตามองของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งได้รับข้อมูลการระบาดที่เข้าสู่ชุมชนแล้ว    จากนั้นผู้ตรวจราชการได้เดินทางมาที่จ.ขอนแก่น พร้อมทั้งร่วมประชุมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งจังหวัด  ในที่ประชุมได้พูดคุยกันในประเด็นเรื่องการปรับสภาพพื้นที่ เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด 19 ในพื้นที่อำเภอเมืองเพิ่มมากขึ้น 
ผอ.รพ.ขอนแก่นยืนยันบริหารงานโปร่งใสภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน

“จากประสบการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด  พบว่าตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้การค้นหาผู้ติดเชื้อได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คือ เครื่องมือตรวจหาเชื่อโควิด 19 แบบ Real time PCR ซึ่งต้องมีห้องทำงาน  มีบุคลากร และเครื่องมือทางการแพทย์  ซึ่งทางสปสช.และกรมบัญชีกลาง ได้อนุมัติให้เบิกได้  ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้ต้องใช้เวลาเพราะต้องมีมาตรฐานรองรับ จึงต้องวางระบบป้องกันการระบาดให้มากที่สุด เมื่อรู้ว่ามีกลุ่มผู้ติดเชื้อจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาได้ทันที  ต่อมามีการนำชุดตรวจเอทีเคมาใช้ในการตรวจหาเชื้อ ซึ่งการใช้ชุดตรวจเอทีเคนั้น ต้องเป็นชุดตรวจที่มีคุณภาพค่าความแม่นยำสูง ซึ่งทางนายแพทย์ สสจ.ขอนแก่นได้เน้นย้ำมาว่า ชุดตรวจเอทีเคต้องมีมาตรฐาน  ไม่ได้ใช้ชุดตรวจเอทีเค แบบที่องค์การเภสัชกรรมซื้อ เพราะใช้ไม่ได้ เมื่อเจ้าหน้าที่นำไปใช้พบว่ามีผลลวงสูง” นพ.เกรียงศักดิ์  กล่าว 
นพ.เกรียงศักดิ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการประชุมได้ประสานให้เตรียมทีมลงพื้นที่ตรวจเชิงรุก ด้วยชุดตรวจเอทีเคให้มากที่สุด รับผิดชอบการดำเนินงานโดยสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมือง ซึ่งมีการพูดคุยกันเรื่องการซื้อชุดตรวจเอทีเคให้เพียงพอกับความต้องการ  เมื่อสอบถามทาง นายแพทย์ สสจ.ขอนแก่น ระบุว่า ขณะนี้ทางจังหวัดขอรับการสนับสนุนจากท้องถิ่น แต่จนถึงวันนี้ท้องถิ่นยังไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อให้ หากรอเอทีเคจากท้องถิ่น ต้องไปดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ต้องใช้เวลานาน ซึ่งรอไม่ได้ เพราะมีการแพร่ระบาด

ผอ.รพ.ขอนแก่นยืนยันบริหารงานโปร่งใสภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
 

“กรณีที่ต้องดูแลคนไข้เร่งด่วนฉุกเฉิน รัฐบาลมีระเบียบรองรับที่เรียกว่า ว.115  ซึ่งกรณีโรคระบาดนั้น ถือเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน  การจัดซื้อตามแนวปฏิบัติเดิม ไม่สามารถดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามปกติได้  จึงยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดวงเงินการจัดชื้อจัดจ้างพัสดุ โดยวิธีเฉพาะเจาะจง วงเงินการจัดชื้อจัดจ้างที่ไม่ทำข้อตกลงเป็นหนังสือและระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดชื้อจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ.2460 ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการตามข้อ79 วรรคสอง หากมีความจำเป็นต้องจ่ายเงินค่าพัสดุล่วงหน้าให้แก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามระเบียบๆ ข้อ 89(4) โดยให้จ่ายได้ตามเงื่อนไขที่ผู้ขาย หรือผู้รับจ้างกำหนด และยกเว้นการวางหลักประกันการรับเงินล่วงหน้าตามระเบียบฯ ข้อ 91 วรรคสอง จึงได้ดำเนินการจัดซื้อชุดตรวจเอทีเค  รวมทั้งการจัดหาพื้นที่รองรับการตรวจพีซีอาร์เพิ่มปริมาณการตรวจกลุ่มเสี่ยงให้เพิ่มขึ้น”     นพ.เกรียงศักดิ์  กล่าว 
ในส่วนของการร้องเรียนนั้น นพ.เกรียงศักดิ์  กล่าวว่า ได้ให้ทนายรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินการฟ้องศาล  ผู้ที่เดินทางยื่นหนังสือ  รวมทั้งการขึ้นป้าย จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งการดำเนินการในลักษณะนั้นถือเป็นการใส่ร้ายผู้บังคับบัญชา ไม่ใช้เป็นการดำเนินการตรวจสอบตามปกติ ข้อมูลที่ให้เป็นเท็จ จึงจะต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด

โดย-กวินทรา  ใจซื่อ

ผอ.รพ.ขอนแก่นยืนยันบริหารงานโปร่งใสภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน
    
    
 

logoline