ผู้รับเหมารับจะแก้ไขใน3วัน จุดกลับรถโผล่กลางถนน

3 พฤศจิกายน 2564 จากกรณีเพจ Facebook ชื่อว่า ฟุตบาทไทยสไตล์ ได้ลงภาพถนนสาย ร้อยเอ็ดไป อำเภอจตุรพักตร์พิมาน ซึ่งแปลกเพราะเกาะกลางถนน โผล่อยู่กลางเลนฝั่งขวาทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของผู้ใช้รถใช้ถนน และชาวเน็ตเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่งงกับภาพที่เห็น พูดกันไปต่างๆนานา

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เมื่อไปถึงสถานที่ตามที่ทางเพจได้ลงไว้ซึ่งอยู่ที่บริเวณถนนสายร้อยเอ็ด - จตุรพักตรพิมาน ช่วงกิโลเมตรที่ 57 ใกล้กับโรงสีสนธยาพืชผล บริเวณนั้นมีการก่อสร้างถนนเป็นทางยาว และได้พบภาพดังที่ปรากฏอยู่ในเพจจริงๆ

พร้อมกันนั้นยังได้พบกับ นายจิรศักดิ์ ศรีบุญลือ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด กำลังยืนพูดคุยอยู่กับผู้รับเหมาว่าการที่ถนนอยู่ในลักษณะนี้มีความเสี่ยงเกิดอันตรายเพราะว่าเส้นจราจรจุด ที่ห่างจากยูเทิร์น จะดูปกติแต่เมื่อขยับมาใกล้ยูเทิร์นช่องจราจรฝั่งขวา จะแคบลงเรื่อยเรื่อยๆ และเกาะกลางถนนกลายเป็นว่าอยู่กลางเลนฝั่งขวา อาจจะทำให้รถที่ตีคู่กันมาและไม่คุ้นเส้นทางนี้ เกิดการเบียดกันจน เกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ จึงได้แจ้งให้ผู้รับเหมาทำการแก้ไขเบื้องต้นเพื่อป้องกันอุบัติเหตุเฉพาะหน้าตอนนี้เสียก่อน

นางนวรัตน์ พาโคกทม ผู้ประกอบการโรงสีสนธยาพืชผล ซึ่งอยู่ใกล้จุดดังกล่าว บอกว่า มีพี่น้องเกษตรกรมาแจ้งบ่อยครั้งว่า การขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมทำจุดกลับรถ ทำให้ผู้ใช้ทางสับสน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงฤดูเก็บเกี่ยวที่จะถึงนี้การขนย้ายผลิตผลทางการเกษตร หรือการขนข้าวเปลือกไปจำหน่ายยังโรงสี แต่ละปีมีรถพี่น้องเกษตรกรวิ่งจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุขได้

จึงวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดจนผู้รับเหมา เร่งหาวิธีปรับปรุง แก้ไข เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่เกษตรกรและพี่น้องประชาชนที่สัญจรผ่าน เส้นทางดังกล่าวโดยด่วน
 

นายปรีชา มั่นคง นายช่างโครงการ ผู้ควบคุมการก่อสร้างถนนเส้นนี้ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ถนนเป็นลักษณะอย่างนี้เพราะว่าช่วงแรกที่ก่อสร้างขยายถนนตรงบริเวณนี้ไม่มีจุดกลับรถ หลังจากนั้นชาวบ้านได้ร้องขอให้ทำการสร้างจุดกลับรถ เพื่อความสะดวกในการเดินทางของชาวบ้านบริเวณนั้น เพราะว่าแถวนั้นมีโรงสีข้าวและมีเกษตรกรค่อนข้างเยอะ

เมื่อเรื่องร้องขอผ่าน ทางโครงการจึงได้ทำการเพิ่มช่องจุดกลับรถขึ้นมา ทำให้เกาะกลางถนนมาเบียดกับเลนทั้งสองฝั่ง ซึ่งความเป็นจริง ขนาดถนนจะเท่ากัน แต่เส้นจราจรเป็นเส้นจราจรเดิม ซึ่งทางผู้รับเหมาก็ไม่ได้ลบเส้นตีใหม่ เพราะว่าพื้นถนนยังทำไม่เสร็จ จะทำการเทราดยางทับ ทำให้เส้นจราจรมันหายไปอยู่แล้ว

ตอนนี้จะได้ทำการแก้ไขเบื้องต้นโดยจะปิดช่องจราจรฝั่งขวาไว้เสียก่อน แล้วติดไฟเตือน คาดว่าอีกประมาณ 3 วันก็จะทำการเทพื้นผิวได้ ก็จะทำให้เส้นจราจรที่สร้างความสับสนนี้ลบหายไป และถนนก็จะกลับมาใช้ได้ตามปกติ .

ภาพ/ข่าว : วินัย วงศ์วีระขันธ์