ที่ปรึกษากลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ศุภวุฒิ สายเชื้อ ระบุ การเปิดประเทศถือเป็นผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยแน่นอน แม้จะยังไม่มีผลบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้มากนัก แต่สิ่งที่สำคัญคือจะเป็นการสร้างพื้นฐานที่ดีให้เศรษฐกิจโตต่อเนื่องไปถึงปีหน้า แต่การทำให้เศรษฐกิจไทยกลับไปเติบโตระดับ 4-5% ในปีหน้าไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นปัจจัยท้าทายมาก เพราะขณะนี้ไม่ได้มีเฉพาะปัญหาจากโควิด 19 แต่ยังมีปัญหาอื่นๆอีกมาก ทั้งปัญหาของซัพพลายเชน เงินเฟ้อ และราคาพลังงานที่อยู่ระดับสูง
ไฟท์บังคับที่ทำให้รัฐบาลต้องเปิดประเทศ เพราะคงเห็นแล้วว่าหากไม่เปิด จีดีพีจะโตต่ำกว่า 1% แน่นอน ทำอย่างไรจึงจะพยุงจีดีพี ไม่งั้นคนทำมาหากินไม่ได้ แม้จะรู้ว่าเปิดแล้วเสี่ยงมากน้อยแค่ไหนถือเป็นการยอมรับความเสี่ยง เพราะหากมีความเสี่ยงต่อการกลับมาแพร่ระบาดก็เป็นสิ่งที่ต้องไปแก้หน้างาน แต่รอไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเปิดประเทศ หากไม่ทำจะเจอปัญหาหนักกว่านี้แน่นอน เพราะปิดประเทศมาแล้วเกือบ 2 ปี
ด้านเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช. ดนุชา พิชยนันท์ ระบุ การเปิดประเทศจะทำให้บรรยากาศทางเศรษฐกิจผ่อนคลายมากขึ้น ประกอบกับมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อก่อนหน้านี้ เช่น โครงการคนละครึ่งเฟส 3 โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งขยายเวลาเบิกจ่ายเงิน และโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่ปรับปรุงวงเงินใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งโครงการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อโค้งสุดท้ายของปี