31 ตุลาคม 2564 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ว่า มีนักการเมือง และตำรวจ เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนข้ามชาติ จริงหรือไม่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 64 ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ได้เข้าจับกุมเรือสีดำ หัวเรือระบุชื่อ “เหนือสมุทร 9” ตามทะเบียนเรื่อชื่อว่า “เทคซ่า” บริเวณใกล้เกาะสีชัง จ.ชลบุรี และเข้าตรวจยึดน้ำมันดีเซลประมาณ 4 แสนลิตร ที่ลักลอบนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย พร้อมผู้ต้องหา 4 คน คือ นายสุวรรณ อายุ 56 ปี นายท้ายเรือ นายมนตรี อายุ 41 ปี นายช่างกลเรือ นายสุริยันต์ อายุ 34 ปี และนายพุทธรักษ์ อายุ 37 ปี 2 ลูกเรือ
พล.ต.ท.จิรภพ บอกว่า ต้องใช้เวลาสืบสวนอีกสักระยะหนึ่ง หากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะถูกดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต พ.ศ.2560 มาตรา 204 (1) ข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสินค้าที่ไม่เสียภาษีเพื่อจำหน่าย หรือจำหน่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับเป็นเงิน 5-15 เท่าของภาษีต้องเสียหรือทั้งจำทั้งปรับ
และความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 242 ถือเป็นความผิดมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 สามารถยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยได้
มีรายงานว่า ขบวนการลักลอบน้ำเถื่อนข้ามชาตินี้ มีอีก 11 คนเกี่ยวข้อง และให้การสนับสนุน อาทิ นักการเมืองระดับท้องถิ่น ที่มีความสนิทสนมกับนักการเมืองระดับชาติ และนายตำรวจระดับสารวัตรรายหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา และมีนักธุรกิจระดับ “เสี่ย-เจ๊-บัง”
กลุ่มผู้ค้าน้ำมัน และนายทุนเรือรับจ้างเป็นผู้ร่วมสนับสนุนการค้าน้ำมันเถื่อน มีการแบ่งรายกัน โดยทำในรูปแบบบริษัท 2 บริษัท
ตามแนวทางการสืบสวน ยังพบว่า ขบวนการนี้กำลังเตรียมขยายธุรกิจการค้าน้ำมัน จากการลักลอบขายกลางทะเล ขยับขยายมาทำการค้าในพื้นที่จ.ชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียง โดยเป็นกลุ่มนายตำตรวจระดับสารวัตร ที่มีความสนิมสนมกัน ดูแลเครือข่าวนี้ทั้งหมด
รายงานข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหา ยอมรับว่า ได้ไปรับน้ำมันมาจากประเทศกัมพูชา โดยเป็นน้ำมันดีเซลซึ่งมีค่าสารมาร์คเกอร์ 27 หน่วย ที่มีความเข้มข้นสำหรับเติมน้ำมันส่งออกไปต่างประเทศ และได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิต เมื่อนำออกไปแล้วจะไม่สามารถนำกลับเข้ามาในราชอาณาจักรได้อีก หากนำเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร
ทางสอบสืบสวนของตำรวจ ทราบผู้ร่วมเครือข่ายทั้งหมดแล้ว จากหลักฐานบัญชีธนาคารแห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงระหว่างกัน
จากการสืบสวนขยายผลเชิงลึก ทราบว่า ขบวนการลักลอบนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาจำหน่ายในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายที่จับกุมได้ครั้งนี้นั้น มีนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังใน จ.ฉะเชิงเทรา อยู่เบื้องหลัง โดยมีน้องชายของนักการเมืองคนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ทราบว่าได้หลบหนีไปแล้วเป็นคนดำเนินการ มีแหล่งลักลอบจำหน่ายที่ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีนายตำรวจระดับสารวัตรใน จ.ฉะเชิงเทรา รายหนึ่งร่วมขบวนการด้วย