31 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้(30 ต.ค.) เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ออกประกาศออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่37) โดยกำหนดเรื่องการเปิด- ปิด - กิจกรรม ปรับพื้นที่ควบคุมสูงสุด และกำหนดพื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว ) 4 จังหวัด กรุงเทพมหานคร กระบี่ พังงา ภูเก็ต เปิดให้จำหน่ายและ "กินดื่ม ขายเหล้า"ได้ ต้อนรับการเปิดประเทศ เริ่มมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 พ.ย.นี้
พร้อมกันนี้ ได้ออก คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 19/2564 เรื่อง พื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม และพื้นที่เฝ้าระวังสูง ตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นการกำหนดบัญชีรายชื่อจังหวัดในพื้นที่ควบคุมฉบับใหม่
และ คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ที่ 20/2564 เรื่อง แนวปฏิบัติตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 18)
โดยมีเนื้อความระบุว่า ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไป เป็นระยะอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 นั้น
ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถือเป็นความท้าทายและเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญที่ประเทศไทยได้ข้ามผ่าน อุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ได้แพร่ระบาดไปทั่วโลก
โดยอาศัยการประสานความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วน พนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่ร่วมดำเนินการและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรคตามที่ได้กำหนดไว้ ประกอบกับอัตราผู้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคที่เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ผู้ป่วยอาการรุนแรง และผู้เสียชีวิตมีจำนวนลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
เหตุดังกล่าวจึงเป็นปัจจัยส่งผลต่อภาพรวมของสถานการณ์ การระบาดในประเทศไทยที่มีแนวโน้มคลี่คลายไปในทางที่ดี รัฐบาลโดยข้อเสนอของฝ่ายสาธารณสุข จึงเห็นสมควรให้มีการปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดจำแนกตามระดับพื้นที่สถานการณ์รวมทั้งปรับเกณฑ์ การพิจารณาให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดที่เกิดขึ้นและรองรับแผนการเปิดประเทศเพื่อรับ นักท่องเที่ยว
ข้อกำหนดฉบับนี้จึงเป็นการผ่อนคลายมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรค และรวบรวมบรรดามาตรการควบคุมแบบบูรณาการต่างๆ ที่ได้ประกาศไว้แล้วในข้อกำหนดฉบับก่อนหน้า โดยจำแนกออกเป็นพื้นที่สถานการณ์ที่แตกต่างลดหลั่นกันตามความรุนแรงของการระบาดของโรค
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเน้นย้ำถึงเจตนารมณ์ที่จะผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่ได้กำหนดไว้ ให้ดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้การดำเนินกิจการและกิจกรรมของบุคคลและสถานที่ต่าง ๆ อยู่ภายใต้เงื่อนไขการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรค เพื่อรักษาสมดุลด้านความมั่นคง ทางสาธารณสุขกับการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนให้ใกล้เคียง กับภาวะปกติ
โดยมีสาระสำคัญดังนี้