มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก รีแบรนด์เฟซบุ๊กใหม่ กลายเป็น " เมต้า "

มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่าบริษัทของเขากำลังรีแบรนด์ตัวเองในชื่อ  " เมต้า " ในความพยายามที่จะรวมเอาวิสัยทัศน์เสมือนจริงสำหรับอนาคต ซึ่งเขาเรียกมันว่า " เมต้าเวิร์ส "

ในขณะที่่หลายฝ่ายชี้ว่า การเปลี่ยนชื่อที่ตอกย้ำความทะเยอทะยานของเครือข่ายโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดในโลกในการสร้าง " เมต้าเวิร์ส " งานนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่องเอกสารของเฟซบุ๊กที่รั่วไหลออกมามากกว่า เพราะเอกสารจำนวนมาก ซึ่งตอนแรกถูกหยิบยกมาอธิบายโดยฟรานเซส ฮาวเกน อดีตพนักงานของเฟซบุ๊กที่ผันตัวมาเป็นคนแฉเฟซบุ๊ก ได้เปิดเผยว่าเฟซบุ๊กเพิกเฉยหรือมองข้ามคำเตือนภายในองค์กรเกี่ยวกับผลกระทบในทางลบ และมักจะเป็นอันตรายของระบบอัลกอริทึมของบริษัทที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก รวมถึงเรื่องอำนาจทางการตลาด และนโยบายการละเมิดต่าง ๆ บนแพล็ตฟอร์ม

ซัคเคอร์เบิร์กอธิบายผ่านทางไลฟ์สดเสมือนจริง และเออาร์ คอนฟีเรนซ์ ของทางบริษัทว่า เมต้าเวิร์ส เป็น "สภาพแวดล้อมเสมือนจริง" ที่คุณสามารถเข้าไปข้างในได้ แทนที่จะดูอยู่ที่แค่หน้าจอ

โดยพื้นฐานแล้ว มันคือโลกของชุมชนเสมือนจริงที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งผู้คนสามารถพบปะ ทำงาน และเล่นโดยใช้ชุดเฮดเซ็ตเสมือนจริง แว่นตาเสมือนจริง แอพสมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

เขาบอกว่าเขาคาดว่า เมต้าเวิร์ส จะเข้าถึงผู้คนนับพันล้านภายในทศวรรษหน้า

ในการอธิบายเกี่ยวกับการรีแบรนด์นั้น ซัคเคอร์เบิร์ก บอกว่าชื่อ " เฟซบุ๊ก " ไม่ได้ครอบคลุมทุกอย่างที่บริษัททำอีกต่อไป

เพราะนอกเหนือจากเครือข่ายโซเชียลหลักแล้ว ตอนนี้บริษัทก็ยังรวมถึง อินสตาแกรม , แมสเซนเจอร์ , ชุดเฮดเซ็ต เควสต์ วีอาร์ , แพลตฟอร์ม ฮอไรซั่น วีอาร์ และอื่น ๆ อีกมากมาย การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นการรวมเอาแอพและเทคโนโลยีต่าง ๆ มาอยู่ในแบรนด์เดียวกัน แต่มันจะไม่เปลี่ยนโครงสร้างของบริษัท

นอกจากนั้น บริษัทก็ยังเปิดตัวโลโก้ใหม่ที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทที่ เมนโลพาร์ค ในแคลิฟอร์เนีย โดยโลโก้ " ไลค์ " ซึ่งเป็นภาพชูนิ้วโป้งอันเป็นตำนาน ถูกแทนที่ด้วย สัญลักษณ์ความไม่สิ้นสุดสีฟ้า 

ซัคเคอร์เบิร์กบอกว่าชื่อใหม่สะท้อนว่า เมื่อวันเวลาผ่านไป ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องใช้เฟซบุ๊กเพื่อที่จะใช้บริการอื่น ๆ ของบริษัท

และบริษัทบอกไว้ในบล็อกโพสต์ว่าตั้งใจที่จะเริ่มซื้อขายหุ้นภายใต้สัญลักษณ์ใหม่คือ  MVRS ในวันที่ 1 ธันวาคม