28 ตุลาคม 2564 เมื่อเวลา 13.30 น.ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุรินทร์ นายณัฐพล กอนคำ อายุ 26 ปี หรือบอย หนุ่มพ่อค้าออนไลน์ที่ขายทุกอย่างในออนไลน์ พร้อมเพื่อนๆสาวในวงแชร์ เกือบ 10 ราย เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ หลังจากถูกท้าวแชร์คนหนึ่ง ใช้ชื่อทางเฟซบุ๊กว่า Pafun Sanaosaing (พาฝัน เสนาะเสียง ) ตั้งตัวเป็นท้าวแชร์ โดยมีวงแชร์ไม่ตำกว่า 15-20 วง
น้องบอย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองเล่นทั้งหมด 19 วง นำเงินที่ขายสินค้าออนไลน์ได้กำไรก็นำมาลงทุนในวงแชร์ เห็นว่ากำไรดี โดยจ่ายเงินไปแล้ววเป็นเงิน 259,000 บาท ได้รับกลับมาเพียง 55,050 บาท ที่เหลืออีก 203,950 บาท หายไปกับกลีบเมฆ ขณะที่ รถ,บ้านของเท้าแชร์ ซื้อสร้างอย่างเอิกเกริก มีการ์ดเชิญขึ้นบ้านใหม่ ที่บ้านสังแก หมู่ที่ 6 ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ รถฟอร์จูนเนอร์ คันใหม่ แต่ทั้งหมดได้โอนเป็นชื่อมารดาแล้ว
โดยผู้เสียหายหลายคนบอกว่า วงแชร์ต้น 20,000 บาท แบบราย 5 วัน มือละ1,000 บาท ซึ่งท้าวแชร์จะได้รับเงินค่าดูแลแชร์ของลุกแชร์ในงวดแรกมือละ 1,000 บาท หากมีลูกค้าเยอะ เท้าแชร์ก็กินเงินค่าดูแลงวดแรกแบบสบาย ( อาทิ ลูกแชร์ 21 คน เท้าแชร์ก็กินฟรีไป 21,000 บาท เป็นต้น)
ก่อนที่ลูกแชร์จากวงลูกมิ้น จะได้รับการแจ้งจากท้าวแชร์รายนี้ส่งข้อความมา“ขออนุญาตแจ้งลูกแชร์ทุกท่านะคะ ตอนนี้สถานการณ์บ้านมาถึงทางต้นแล้ว ท้าวพยายามแล้วคะ แต่มือตายเยอะ ท้าวแบกต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ ต้องขอโทษลูกแชร์ที่ส่งยอดตรง ไม่มีปัญหาด้วยนะคะ ขอให้ลูกแชร์ที่ยังไม่ได้รับสรุปยอดตัวเองแจ้งท้าว และใครที่มีส่งอยู่ให้ส่งปกตินะคะ เพราะรับเยอะไปแล้ว ขออนุญาตปิดบ้านไม่เดินต่อแล้วนะคะ ท้าวเดินต่อไปไม่ไหวมือตายเยอะมากสำรองไม่ไหว ส่วนมือไหนที่ยังเป็นมือบวกให้คิดยอดมาคะท้าวจะทยอยให้นะคะ”
จากนั้นก็ปิดเฟซบุ๊กมือถือ ไม่อยู่บ้านติดต่อทางไหนก็ไม่ได้ หายเข้ากลีบเมฆ เดือดร้อนลูกแชร์ทั้งในตัวเมืองสุรินทร์ ต่างอำเภอและต่างจังหวัดเกือบ 50 รายสูญเงิน ในพื้นที่สุรินทร์ จำนวนเกือบ 4 ล้านบาท และต่างจังหวัดลูกแชร์ 42 รายรวมแล้วเกือบ 50 ล้านบาท ลูกแชร์ต้องสำเนาการจ่ายเงินโอนเงินให้ นางสาวพาฝัน มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อขอให้ดำเนินคดีที่เข้าลักษณะฉ้อโกงตาม พรบ.แชร์ ตั้งแต่ห้ามตั้งวงแชร์เกิน 3 วง ห้ามมีสมาชิกเกิน 30 คน
จากนั้นร้อยตำรวจเอกสุรเดช เพ็ชรใสดี พนักงานสอบสวน ได้ลงบันทึกประจำวันให้กับนายณัฐพล กอนคำ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 185/ 14 หมู่ 22 ตำบลนอกเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ มาลงบันทึกประจำวันว่า ผู้แจ้งได้รู้จักกันกับ นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง อายุ 26 ปี ที่อยู่ 9 หมู่ 6 ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ทางโปรแกรมเฟซบุ๊ก จนกระทั่งสนิทสนมกัน และต่อมานางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ได้ย้ายบ้านมาพักอาศัยในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้แจ้ง หลังจากนั้น นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ได้ชักชวนทางเฟซบุ๊กให้ผู้แจ้งเล่นแชร์ชื่อวงแชร์ว่า “ บ้านแชร์มิ้นนี่” โดยได้บอกว่าถ้าลงเล่นเป็นสมาชิกแล้วจะได้ดอกเบี้ยและส่วนต่างค่อนข้างมาก ผู้แจ้งสนใจ จึงได้สมัครใจลงเล่นเป็นสมาชิก
โดย นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ได้แจ้งต่อผู้แจ้งว่าขณะนี้สมาชิกวงแชร์บางรายได้มีความประสงค์ที่จะขายมือแชร์ และบอกด้วยว่าหากผู้แจ้งประสงค์จะซื้อมือแชร์ดังกล่าว ก็ให้โอนเงินจำนวน 28,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 0573515188 โดยมีนางสาวพาฝัน เสนาะเสียง เป็นเจ้าของบัญชี และหลังจากที่ผู้แจ้งสมัครเป็นสมาชิกและโอนเงินให้แล้ว นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ได้แจ้งเงื่อนไขเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากเป็นสมาชิกแล้วภายใน 15 วัน นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง จะโอนเงินจำนวน 50,000 บาท ให้ผู้แจ้ง แต่ปรากฎว่าเมื่อถึงเวลาที่ต้องโอนเงินให้ผู้แจ้งแล้ว นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ไม่ได้โอนเงินให้ผู้แจ้งตามสัญญา ซึ่งจากการที่ผู้แจ้งตรวจสอบย้อนหลังแล้วพบว่า นางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ได้หลอกลวงทำนองนี้กับบุคคลอื่นอีกหลายราย ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดีกับนางสาวพาฝัน เสนาะเสียง ตามกฎหมายต่อไป โดยมี ร.ต.อ.สุรเดช เพ็ชรใสดี พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งและบันทึกไว้ตามระเบียบข้อบังคับข้อกฎหมายแล้ว เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป
โดย - วิจิตร ชุนหกิจขจร