28 ตุลาคม 2564 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างตนเองเป็นเจ้าหน้าที่คอลเซ็นเตอร์จากธนาคาร หรือ แสดงตนเป็นข้าราชการระดับสูง หรือ นายตำรวจระดับสูง โทรศัพท์หาผู้เสียหาย อ้างว่า บัญชีธนาคารถูกอายัด หรือบัญชีธนาคารของผู้เสียหายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด เช่น พัวพันกับการจำหน่ายยาเสพติด การค้าของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ ฯลฯ
จากนั้นจะให้ผู้เสียหายแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยโอนเงินในบัญชีธนาคารทั้งหมดมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ โดยข่มขู่ว่าหากไม่โอนเงินมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ จะถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและความผิดอื่นที่มีอัตราโทษจำคุก ทำให้ผู้เสียหายบางคนตกใจหลงเชื่อ และพยายามแสดงความบริสุทธิ์ โดยโอนเงินให้กับคนร้าย จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ได้ ทำให้ได้รับความเสียหาย
โดยครั้งล่าสุดทางด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ได้แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ได้กระทำความผิดในลักษณะดังกล่าว โดยศาลออกหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 8 คนจับได้ 5 คน โดยกรณีนี้มีความเสียหายมูลค่ากว่า 14 ล้านบาท
โดย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนว่า หากได้รับโทรศัพท์แอบอ้างในลักษณะดังกล่าว ควรปฏิบัติดังนี้
1.ตั้งสติ อย่าตกใจ และอย่าหลงเชื่อ
2.สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นให้แน่ชัด และสำรวจว่าตนเองมีความเกี่ยวพันกับเรื่องที่คนร้ายโทรมาหลอกลวงหรือไม่
3.อย่าดำเนินการใดๆ โดยแจ้งว่าจะติดต่อกลับในภายหลัง และรีบวางสายสนทนา
4.ตรวจสอบข้อมูลกับแหล่งที่เชื่อถือได้ เช่น ธนาคารหรือหน่วยงานที่ถูกแอบอ้าง โดยติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ของหน่วยงานนั้นๆ
5. หากมีผู้ใดโทรมาสอบถามข้อมูลส่วนตัว ให้คิดไว้เสมอว่าอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพ และต้องไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวใดๆ อย่างเด็ดขาด