โจรใจบาปลักเงินค่าน้ำค่าไฟวัดในกุฎิเจ้าอาวาส
อุดรธานี เปิดวงจรปิดล่าโจรใจบาป สวมหมวกแก๊ปสวมแมส เดินวนเวียนก่อนปีนรั้วเหล็กกุฏิเจ้าอาวาส ลักเงินค่าน้ำค่าไฟตู้บริจาค
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 26 ตุลาคม 2564 พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ที่กุฎิเจ้าอาวาสวัดโพธิวราราม ถนนโพศรี เขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงพร้อมด้วย ร.ต.อ.สมพร จันทร์ลอย รอง สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมนำกำลัง รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นกุฎิปูนชั้นเดียวมีรั้วรอบขอบชิดพบพระครูโพธิวรานุรักษ์ อาภาธโร อายุ 81 ปี เจ้าอาวาสวัด พร้อมด้วยนายบุบผา คุณมี อายุ 79 ปี เป็นไวยาวัจกรวัด นำตรวจที่เกิดเหตุบริเวณโรงจอดรถ และได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ากล้องสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เวลา 21.02 น.พบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมหมวกแก๊ป สวมแมส และไม่มียานพาหนะเดินเข้ามาวนเวียนอยู่แถวโรงรถข้างกุฏิเจ้าอาวาส กระทั่งเวลา 00.43 น.พบคนร้ายคนเดิมกลับมาได้ปีนรั้วเหล็กกุฏิเจ้าอาวาสเดินตรงเข้าไปที่ตู้บริจาคหน้ากุฏิคล้ายกับจ้องไว้แล้วคนร้ายเปิดเอาเงินในตู้บริจาคแล้วก็รีบปีนหนีไป
พระครูโพธิวรานุรักษ์ อาภาธโร อายุ 81 ปี เจ้าอาวาสวัด ให้การว่า ปกติหลวงปู่จะจำวัดเข้านอนเวลา 20.30 น. แต่เวลาประมาณ 21.00 น.ได้ยินเสียงหมาเห่า จึงลุกขึ้นมาส่องดู แต่ไม่เห็นอะไร จนกระทั่งกลางดึกรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เพราะได้ยินเสียงสุนัขเห่าอีกแต่ไม่ได้ส่องดู พอตื่นขึ้นมาปฏิบัติกิจของสงฆ์ในช่วงเวลา 04.00 น.ก็พบตู้บริจาคแบบไม้ถูกเปิดฝาออกเพราะไม่ได้ล๊อคกุญแจเงินที่ญาติโยมมาบริจาคให้เป็นค่าน้ำค่าไฟประมาณ 200-300 บาทหายไป และรอกระทั่งไวยาวัจกรมาวัด ก่อนโทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ “หลวงปู่อยากฝากบอกถึงโจร อย่าทำอีกเลย เพราะมันไม่ดี เพราะว่าเป็นเงินที่เขาบริจาคมาเป็นค่าน้ำค่าไฟวัด”
นายบุบผา คุณมี อายุ 79 ปี เป็นไวยาวัจกรวัด เล่าว่า โดยปกติวัดจะปิดประตูรั้วทั้ง 4 ด้านในเวลา 21.00 น. หลังเกิดเหตุได้ไปตรวจกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-35 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ สวมหมวกแก๊ป ไม่มียานพาหนะ เดินเข้ามาวนเวียนอยู่แถวโรงรถข้างกุฏิเจ้าอาวาส โดยส่องดูรถแต่ละคันพร้อมกับปิดไฟโรงรถพอดีมีพระตื่นขึ้นมาคนร้ายจึงวิ่งหนีไป กระทั่งเวลา 00.43 น.พบคนร้ายคนเดิมได้ปีนรั้วเหล็กกุฏิเจ้าอาวาสอีก ครั้งนี้คนร้ายเดินตรงเข้าไปที่ตู้บริจาคหน้ากุฏิคล้ายกับจ้องไว้แล้ว คนร้ายเปิดเอาเงินในตู้บริจาค แล้วก็เดินหนีไป
“ฝากถึงโจรทั้งหลาย หาอยู่หากินก็ให้มันชอบธรรม เพราะมันเป็นเงินบริจาควัด ชาวบ้านนำมาให้วัดเพราะเป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาวบ้านชุมชน อย่ามาทำลายศาสนา ตายไปก็มาเผาที่วัด ไม่มีที่ไหนกล้าเผาคนตายนอกจากวัด ให้มีจิตใจเป็นคนมันบาป 2 เท่า อย่ามาหากินในวัดทรัพย์สินในวัดเป็นของทุกคน”
ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนละแวกวัด โดยปีนรั้ววัดเข้ามาลัก ซึ่งจะได้ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
โดย - เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์