จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก จือปาก โพสต์ข้อความที่หญิงรายหนึ่ง ร้องเรียนว่า น้องฟ้าใส หลานวัย 3 ขวบ ถูกพ่อทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส โดยแพทย์ผู้รักษาประเมินอาการเบื้องต้นว่า เยื้อหุ้มในสมองอักเสบ ล่าสุด ตำรวจสภ.เมืองสุพรรณบุรี คุมตัวพ่อและแม่เด็ก ที่ร่วมกันทำร้ายร่างกาย น้องฟ้าใส มาสอบปากคำเพิ่มเติม ภายในห้องสืบสวนสภ.เมืองสุพรรณบุรี
ล่าสุดวันที่ 26 ตุลาคม 2564 ร.ต.อ ประยุทธ นุชนาถ ร้อยเวร สภ.เมืองสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้สอบสวนพ่อเด็ก อายุ 36 ปี เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ทำร้ายลูก แต่ทางเจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานและมั่นใจว่า จะดำเนินคดีีได้ ทั้งนี้ขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้แน่นหนาก่อน จึงจะส่งพ่อเด็กฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป ส่วนแม่เด็ก อายุ 28 ปี ให้การรับสารภาพว่า สามีเป็นผู้ทำร้ายลูกสาว หากวันนี้ถ้าสอบปากคำพ่อเด็กเพิ่มเติมอีก แล้วพ่อเด็กยอมรับสารภาพก็อาจจะคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพก่อนส่งตัวฝากขัง
ขณะที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ทั้งสองคน 3 ข้อหา คือ1.ความผิดตามพรบ คุ้มครองเด็ก /2.ความผิดตามพรบ ความรุนแรงในครอบครัว /3.ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และข้อหาเสพยาเสพติด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจยังเชื่อมั่นใจในพยานหลักฐานทีมีอยู่ ซึ่งวันนี้ขอรวบรวมพยานหลักฐานอีกหนึ่งวัน โดยในวันพรุ่งนี้ถึงจะส่งฝากขังทั้งพ่อแม่และแม่เด็กวัย 3 ขวบ
สำหรับพ่อเด็กผู้ต้องหาทำร้ายลูกอายุ 3 ขวบ ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของ สภ.เมืองสุพรรณบุรี สภาพยังยิ้มได้ สีหน้าไม่เคร่งเครียดพูดคุยได้ดูแล้วไม่ได้กังวลแต่อย่างใด ขณะที่ภรรยาถูกขังอยู่ห้องขังหญิง สภ.เมืองสุพรรณบรี
ด้านพ่อเด็ก ผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ทำร้ายลูกสาว ตนเป็นพ่อแท้ ๆ จะตีลูกตัวเองได้อย่างไร ซึ่งก่อนที่จะพาลูกสาวไปโรงพยาบาลนั้น ภรรยาได้อุ้มลูกสาวพร้อมกับลูกชายมาที่บ้านมาเคาะประตูห้อง ประมาณ 01.00 น. กระทั่งตนเห็นว่าลูกสาวนั้นถูกทำร้ายร่างกาย หน้าตาฟกช้ำ จึงตัดสินใจพาส่งโรงพยาบาลทันที ยอมรับว่าสงสารลูกมาก
ตนไม่ทราบว่าลูกสาวถูกใครทำร้ายร่างกายมา เนื่องจากภรรยานั้นออกจากบ้านไปได้เกือบหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งหากมีปากเสียงกันภรรยาก็จะเอาลูกไปอยู่ด้วยทั้งสองคน ส่วนจะไปไหนนั้นตนไม่ทราบ เพราะภรรรยาไม่บอกอะไรเลยได้แต่ปากแข็ง โดยตนนั้นคบหาดูใจกับภรรยามาแปดปีแล้ว อดีตยอมรับว่าเคยทำร้าย แต่ปัจจุบันตั้งแต่ออกเรือนจำมา มีเพียงปากเสียงกันเท่านั้น
ส่วนหลายคนสงสัยว่าตนนั้นรักลูกไม่เท่ากัน ตนขอชี้แจงว่ารักลูกเท่ากัน หากตีตนก็คงจะตีลูกชายคนโตมากกว่าลูกสาว นอกจากนี้ภาย หลังจากเกิดเหตุยอมรับว่ามีความเครียด เพราะตนไม่ได้เป็นผู้กระทำ ซึ่งลูกสาวตนก็ต้องรักจะกล้าตีได้อย่างไร อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเสพยาเสพติดแต่นานที และก่อนหน้านี้มีคดีชิงทรัพย์ ทั้งนี้ส่วนความสัมพันธ์ของตนและภรรยานั้นยังไม่ทราบ และขอชี้แจงว่าตนเป็นคนหาเลี้ยงครอบครัวเอง
ขณะที่แม่เด็ก ระบุว่า การทุบตี ไม่เคยทำร้ายร่างกายลูกมาก่อนไม่เคยทำลูก แต่ยอมรับว่ามีเหตุการณ์มาก่อนหน้านี้ แต่ไม่พูดถึง ส่วนกรณีที่ตนถูกทำร้ายหรือไม่นั้น ยอมรับว่าเคยถูกทำร้ายบ้าง เพราะสามีหาว่าตนไม่ช่วยแก้ปัญหา ส่วนเรื่องการทำร้ายลูก เหมือนเป็นการกดดันที่ทำร้ายตนไม่ได้แล้วมาทำร้ายลูกแทน ตนเคยห้ามแต่ไม่เป็นผล ส่วนอาวุธใช้ไม้แขวนเสื้อเท่านั้น และใช้มือทำร้ายร่างกาย
ตลอดเหตุการณ์ที่เห็นสามีทำร้ายลูก ยอมรับว่าเสียใจกดดันเจ็บปวด และสะเทือนใจมาก วันที่พาลูกส่งโรงพยาบาล ตนเป็นคนอ้อนวอน ขอร้องสามีให้พาลูกไปโรงพยาบาล ส่วนเรื่องคดีความให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมยอมรับและยินดีรับผลที่จะเกิดขึ้น