ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ "เดลตาพลัส" ไม่น่าทำให้สถานการณ์โควิด เปลี่ยนแปลง

26 ตุลาคม ภายหลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ออกมาเปิดเผยว่า ประเทศไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย "เดลตาพลัส" AY.4.2 แล้ว 1 ราย ขณะนี้ยังไม่มีรายอื่น  

นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค (คร.) เปิดเผยว่า กรณีสายพันธุ์ AY.4.2 หรือ “เดลตา พลัส” ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์เดลตา โดยในช่วง 28 วันที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ในอังกฤษเพิ่มสูงขึ้น เป็นรองสหรัฐฯประเทศเดียว และพบสายพันธุ์นี้ 6% ของจำนวนผู้ติดเชื้อในภาพรวมของอังกฤษ ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นสายพันธุ์เดลตาเดิมเป็นหลัก

ส่วนสายพันธุ์ย่อย AY.4.2  อยู่ในช่วงจับตามอง แต่ยังไม่ต้องกังวลในเรื่องความรุนแรงกว่าปกติ หรือมีโอกาสดื้อยา ดื้อวัคซีนหรือไม่ เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อัลฟา และเดลตาที่ผ่านมา ถ้าเป็นสายพันธุ์ที่แพร่ระบาดได้เร็วชัดเจน จะเห็นลูกคลื่นการระบาดที่เร็วและแรงมาก

"ผู้เชี่ยวชาญระหว่างประเทศมองว่า กรณีในอังกฤษ เป็นการให้ความสำคัญของรัฐบาลในการจับตามองสายพันธุ์เดลตาพลัส ขณะที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ยังไม่ได้ยกระดับการเฝ้าระวัง"

มาทำความรู้จัก "เดลตาพลัส" AY.4.2 จากกรณีศึกษาในอังกฤษ ว่ามีลักษณะอย่างไร รุนแรงถึงขั้นน่ากังวลหรือไม่

    คุณสมบัติสายพันธุ์ AY.4.2

อันดับแรกเข้าใจก่อนว่า ไวรัสทุกชนิดกลายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา และในกรณีของเชื้อโควิด-19 มีการกลายพันธุ์หลายพันสายพันธุ์ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก ปรากฏการณ์นี้จึงไม่น่าแปลกใจอะไร

สายพันธุ์เดลตา ถูกจัดให้เป็นเชื้อกลายพันธุ์ที่น่ากังวลเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่ในเดือน ก.ค. ผู้เชี่ยวชาญจะพบสายพันธุ์ AY.4.2 จากนั้นได้เริ่มแพร่ระบาดอย่างช้า ๆ

ซึ่งการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส จะส่งผลต่อโปรตีนส่วนที่เป็นปุ่มหนาม (spike protein) ซึ่งเชื้อไวรัสใช้ในการเข้าไปยังเซลล์ของร่างกายคนเรา

    อย่ากังวล

แม้จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าธุ์แพร่ระบาดได้ง่ายกว่า แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาอยู่ โดยศาสตราจารย์ฟรองซัว บาลูซ์ จากสถาบันพันธุศาสตร์ ยูนิเวอร์ซิตี คอลเลจ ลอนดอน (UCL) อธิบายว่า มีความเป็นไปได้ว่า สายพันธุ์ AY.4.2 จะแพร่ระบาดได้ง่าย แต่เทียบไม่ได้กับสายพันธุ์อย่างอัลฟาและเดลตา ซึ่งแพร่ระบาดได้ง่ายกว่าถึง 50-60%

ในขณะที่ ดร.แอนดรูว์ โพลลาร์ด หัวหน้ากลุ่ม Oxford Vaccine Group ให้เหตุผลว่า เดลตาพลัส (Delta Plus) ไม่น่าจะทำให้สถานการณ์โควิดเปลี่ยนไป แต่เมื่อมีการค้นพบสายพันธุ์ใหม่ แน่นอนว่าก็ควรเฝ้าระวัง แต่ก็ไม่มีอะไรบ่งชี้ว่า สายพันธุ์ใหม่นั้นจะมาแทนที่เดลตา

สำหรับประเทศไทย นพ.เฉวตสรร ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน ระบุว่า สธ.มีระบบเฝ้าระวังสายพันธุ์หลักและสายพันธุ์ย่อยต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องและเมื่อตรวจสอบดูพบรายงานของ เดลตาพลัส เพียง 1 ราย และไม่มีรายอื่นที่เกี่ยวเนื่อง

ทั้งนี้ ผู้ป่วยเป็นชายอายุ 49 ปี ประวัติทำงานที่บางไทร จ.อยุธยา ซึ่งมีการส่งตัวอย่างที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์การแพทย์ทางทหาร กองทัพบก (AFRIMS) พบสายพันธุ์ AY.4.2 เป็นการตรวจพบตั้งแต่เดือน ก.ย. 2564 ซึ่งปัจจุบันผู้ป่วยได้รักษาหายแล้ว

"อย่างไรก็ตาม ความน่ากังวลของสายพันธุ์นี้ ที่คาดการณ์น่าจะมีการติดเชื้อที่ง่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากเดลตาเดิม โดยในวันที่ 26 ต.ค. 2564 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะแถลงเป็นทางการอีกครั้ง" นพ.เฉวตสรร ระบุ