เช็กเลย ยังเหลือสิทธิ์ห้องพักและตั๋วเครื่องบิน "เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
เช็กเลย ยังเหลือสิทธิ์ห้องพักและตั๋วเครื่องบิน อีกเพียบ แต่อย่าประมาท โครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 รีบลงทะเบียน ก่อนเสียโอกาส ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
25 ตุลาคม 2564 จากนโยบาย "เปิดประเทศ" ในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เริ่มเห็นอาการปลดปล่อย ของบรรดาผู้มีสายลมและแสงแดด เป็นวิตมินชีวิต ด้การออกไปสัมผัส โพยมหมอกและฟองทะเล เมื่อช่วงวันหยุดยาวสัปดาห์ที่มา หลังจากเก็บกดมาเป็นเวลานาน ต่างพร้อมกันออกไปยังหมุดหมายที่โหยหา จนบางพื้นที่คล้ายเป็นตลาดหน้าปากซอย นับเป็นการหยั่งเชิงของรัฐบาล ก่อนไขกุญแจเปิดประตูบ้าน และการเริ่มรับแขกของโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน"เฟส 3
ทำอย่างไร เงื่อนไขอะไรบ้าง สำหรับ"เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3 โครงการ “โต๊ะรับแขกบ้าน” ของรัฐบาล หลังเปิดลงทะเบียนจองไปแล้ว ผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมาและจะไปสิ้นสุดในวันที่ 31 ม.ค.2565 เมื่อยืนยันตัวตนและสิทธิ์กับระบบแล้ว จะสามารถใช้เป็นส่วนลดในการเดินทางท่องเที่ยวได้ถึง 31 ม.ค.2565 โดยมีห้องพักให้จอง 2,000,000 สิทธิ์ โดยเปิดให้จองโรงแรม/ที่พัก ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2564 จนถึง 23 ม.ค.2565 ระหว่าง เวลา 06.00 - 23.00 น และเริ่มให้ check-in เข้าที่พักที่จองไว้ได้ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.2564 เป็นต้นไป
สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว
- รัฐบาลจะสนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน เมื่อได้ check-in โรงแรมสำเร็จแล้ว
- ประชาชนจะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17.00 น. ของวัน check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23.59 น. ของวัน check-out
- คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนจะชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง
สนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน
- ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน จะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน
- 2 สิทธิผู้โดยสาร/ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้ เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร
- สิทธิเพิ่มเติมรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้โดยสาร เมื่อเดินทางท่องเที่ยวไปยัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย
- ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง
- ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับ จากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกัน จังหวัดที่จองโรงแรม (กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ กับเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม)
- วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการไม่เกิน 5 วัน และการเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 ม.ค.2565
ขั้นตอนการจองโรงแรม-ที่พัก "เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส 3
- ประชาชนที่เคยลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้ ส่วนประชาชนที่ไม่เคยลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกันต้องลงทะเบียนใหม่ โดยเริ่มจองโรงแรม/ที่พัก ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 64 – 23 ม.ค.65 (วันจองวันสุดท้าย) ระหว่างเวลา 06.00 – 23.00 น.
- จองโรงแรมล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน โดยติดต่อทางโรงแรมโดยตรง (ไม่เกิน 15 ห้อง/คืน/คน)
- โรงแรมจะตรวจสอบเงื่อนไข และตรวจสอบห้องว่าง ผ่านทางแอปฯ ถุงเงิน (ไม่สามารถจองโรงแรมที่อยู่จังหวัดเดียวกับทะเบียนบ้านได้)
- รับการแจ้งเตือน และชำระค่าที่พัก 60% ของที่พัก ผ่านช่องทาง G-Wallet บนแอปฯ เป๋าตัง
- รับการแจ้งเตือน การจองสำเร็จ แสดงคูปองเช็กอินที่พักบนแอปฯ เป๋าตัง
- Check in ณ โรงแรม เมื่อถึงวันที่เข้าพัก โดยสแกน QR เช็กอินบนแอปฯ เป๋าตัง จากนั้น สแกนหน้าบนแอปฯ ถุงเงิน ประชาชนจะได้รับ e-voucher 600 บาท/คืน ณ เวลา 17.00 น. ของวัน (ไม่สามารถเช็กอินโรงแรม หรือใช้จ่ายคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว กับร้านที่อยู่ในจังหวัดเดียวกันกับทะเบียนบ้านได้)
- Check out โรงแรม ประชาชนสามารถใช้จ่ายคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว ได้ถึง 23.59 น. ของวันที่เช็กเอาต์
รีบเลย
สำหรับใครที่มีแผนโบยบินไปกลับสายลม โพยมหมอก ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ล่าสุด ณ วันที่ 25 ต.ค.2564 ยังมีจำนวนสิทธิที่พักเหลือ 1,408,969 สิทธิ์ และ จำนวนสิทธิตั๋วเครื่องบินเหลือ 1,263,132 สิทธิ์
เพื่อให้การปักหมุดหมายได้ติดตรึง ลองดูข้อมูลจากสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (ATTA) ที่สำรวจพบว่า จังหวัดยอดนิยม 10 อันดับแรก ที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางไปเยือนมากที่สุด มีจังหวัดไหนบ้าง
- อันดับ 1 จ.เชียงใหม่ (17.17%)
- อันดับ 2 จ.กระบี่ (12.10%)
- อันดับ 3 จ.ภูเก็ต (7.97%)
- อันดับ 4 จ.ชลบุรี (7.56%)
- อันดับ 5 จ.กาญจนบุรี (6.82%)
- อันดับ 6 กรุงเทพฯ (6.55%)
- อันดับ 7 จ.เพรชบูรณ์ (2.41%)
- อันดับ 8 จ.จันทบุรี (2.37%)
- อันดับ 9 จ.ประจวบคีรีขันธ์ (2.31%)
- อันดับ 10 คือ จ.สุราษฎร์ธานี (2.11%)
เพื่อให้สายลมได้รานไล้ทั่วสรรพางค์ และใช้บริการโต๊ะรับแขกของรัฐบาล สามารถเช็คกิจการที่เข้าร่วมโครงการ "เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3 ก่อนวางแผนจองที่พัก หรือตั๋วเครื่องบิน อย่าลืมลงทะเบียนขอรับสิทธิ์