25 ตุลาคม 2564 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.2 บก.ปคบ., พ.ต.ท.ปรีติ์ภาวัต ชัยเพ็ชรโยธิน รอง ผกก.2ฯ, พ.ต.ท.กานต์กนิษฐ์ จงประเสริฐ รอง ผกก.2 บก.ปคบ.
โดย พ.ต.อ.อภิชาติ นำเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม พร้อมชุดปฏิบัติการที่ 4 ร่วมกันควบคุมตัว น.ส.ทิวาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี ตามข้อกล่าวหา ผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้า ขายปุ๋ยเคมีที่ต้องขึ้นทะเบียนแต่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้ ตามมาตรา 30(5), 71 แห่ง พ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2550
พร้อมตรวจพบของกลาง ประกอบด้วย
1.ปุ๋ยเคมีบรรจุในกระสอบพลาสติกสานกลับด้าน ขนาดบรรจุ 50 กก. จำนวน 140 กระสอบ
2.ปุ๋ยเคมี ผลิตเสร็จแล้วเตรียมส่งให้ลูกค้า ไม่มีทะเบียนปุ๋ยเคมี ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 38 กระสอบ (อยู่ภายในโกดังสถานที่ผลิต)
3.ปุ๋ยเคมี สูตร 21-0-0 เอส-แอล ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 55 กระสอบ
4.ปุ๋ยเคมี สูตร 46-0-0 ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 20 กระสอบ
5.ปุ๋ยเคมี สูตร 46-0-0 ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 52 กระสอบ
6.ปุ๋ยเคมี สูตร 0-0-60 ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 17 กระสอบ
7.เม็ดฟิลเลอร์ (Filler) ขนาดบรรจุกระสอบละ 50 กก. จำนวน 138 กระสอบ
8.กระสอบพลาสติกสาน กลับด้านกระสอบ จำนวน 121 กระสอบ
9.ใบเสร็จรับเงิน ระบุ สูตรรวม รวมเป็นเงินจำนวน 58,900 บาท
10.ธนบัตรรัฐบาลไทย จำนวน 59,000 บาท
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กชื่อเพจ “ซื้อ-ขายประมูล ปุ๋ย-ยา เคมีเกษตร” พบว่ามีสมาชิกในกลุ่มได้เสนอขายปุ๋ยเคมีทางออนไลน์ ซึ่งเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ปุ๋ย
จึงได้ทำการสืบสวนสอบสวน และทำการติดต่อขอซื้อผลิตภัณฑ์ปุ๋ยดังกล่าว จากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง และนัดส่งสินค้าภายในโกดัง ต.หนองสะเดา อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี
เมื่อวันที่ 24 ต.ค.64 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เดินทางไปยังจุดนัดหมาย พบกับ น.ส.ทิวาพรฯ (ผู้ต้องหา) อายุ 35 ปี พร้อมปุ๋ยเคมี จึงได้ทำการจับกุมตรวจยึดและอายัดไว้
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กรมวิชาการเกษตร ได้เก็บตัวอย่างปุ๋ยเคมี นำส่งตรวจวิเคราะห์ที่กองวิจัยและพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ฝากเตือนภัย ในกรณีที่เกษตรกรซื้อปุ๋ยเคมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน หากไม่ได้ผ่านการตรวจคุณภาพ จากกรมวิชาการเกษตร อาจทำให้ผลผลิตของเกษตรกรไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ควรจะได้ และเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกร เนื่องจากได้ปุ๋ยที่มีธาตุอาหารไม่ครบถ้วน อาจจำเป็นจะต้องใส่ปุ๋ยในปริมาณที่เพิ่มขึ้น