เกษตรกรระทมน้ำท่วมรอบสอง นาข้าวเป็นทะเล

23 ตุลาคม 2564 ที่ หมู่บ้านโปร่ง, บ้านอะลาง, บ้านยาง และที่โรงเรียนโปร่งสามัคคี ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ น้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก อำเภอภูสิงห์ เริ่มเข้ามาท่วมในพื้นที่ ตั้งแต่เช้าของวันที่ 21 ตุลาคม 2564 ขณะนี้มวลน้ำยังท่วมสูงอยู่ และคาดว่าจะท่วมอยู่อีกราว 2 – 3 วัน อีกทั้งมวลน้ำยังไหลแรง โดยเฉพาะที่ประตูทางเข้าโรงเรียนบ้านโปร่งสามัคคี เป็นโอกาสของเด็กที่จะมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ภายใต้การดูแลของคณะครูที่มาเฝ้าเข้าเวรดูแลสถานการณ์ น้ำท่วมอยู่ตลอด 24 ชั่วโมง โดยน้ำที่ไหลมาท่วมในครั้ง ยังส่งผลให้นาข้าวของเกษตรกรกลายเป็นทะเลที่กว้างไปสุดลูกหูลูกตา นาข้าวนับพันไร่ ถูกน้ำท่วมมาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 โดยน้ำเคยท่วมมาก่อนเมื่อระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 2 ตุลาคม 2564 ซึ่งเป็นมวลน้ำที่ไหลบ่ามาจากเมือกเขาพนมดงรัก อำเภอภูสิงห์ ชายแดนไทย - กัมพูชา ที่ไหลมาตามลำน้ำสาขา แต่เนื่องจากมีมวลน้ำที่มาก เนื่องจากฝนตกบนภูเขา ทำให้น้ำไหลแตกกระจายล้นตามลำน้ำไหลบ่ามาท่วมกระจายเป็นพื้นที่รอบลำน้ำสาขาเป็นบริเวณที่กว้าง และมาท่วมที่ 3 หมู่บ้านแห่งนี้มาก่อนหน้านี้แล้วรอบหนึ่ง

นายสมศักดิ์ หลีเชียง เกษตรกรอายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 130 บ้านยาง หมู่ที่ 7 ตำบลโคกจาน อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ เล่าว่า ตนมีที่นาอยู่บริเวณทิศตะวันออกของบ้านยาง จำนวน 7 ไร่ ซึ่งขณะนี้ถูกน้ำท่วมมา 2 วันแล้ว ซึ่งน้ำมาท่วมเป็นรอบที่สองแล้ว รอบแรกเมื่อระหว่างวันที่ 28 กันยายน 2564 ถึง 2 ตุลาคม 2564 และครั้งนี้น้ำเริ่มมาท่วมวันที่21 ตุลาคม 2564 ต้นข้าวหอมมะลิ จมน้ำขณะนี้ต้นข้าวที่กำลังจะออกรวง เน่าเสียหายหมดแล้ว ขณะที่ตนก็ไม่มีอาชีพอะไร ทำนาเพียงอย่างเดียว ทุกปีหากน้ำไม่ท่วมจะได้ข้าวราว 1 ตันเศษ พอได้เก็บไว้กิน และขายชำระค่าปุ๋ยบ้าง แต่คราวนี้หมดแล้วนาข้าว ถูกน้ำท่วมหมด ไม่มีรายได้อะไรแล้ว ก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อเช่นกัน ในอาชีพเกษตรกรของตน 

“ตอนนี้ก็แค่มานั่งมองน้ำท่วม มาใส่ลอบดังปลา พอได้ปลาไปทำอาหารเลี้ยงครอบครัว แต่อนาคตก็ไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไรเช่นกัน เพราะนาข้าวถูกน้ำท่วมข้าวเน่าเสียหายหมดแล้ว เช่นเดียวกันเกษตรกรรายอื่นๆ ที่มีนาข้าวแถบนี้ ถูกน้ำท่วมหมด นาข้าวกลายเป็นทะเลหมดแล้ว นาข้าวแถบนี้ ที่ถูกน้ำท่วม น่าจะราวๆ พันกว่าไร่เศษได้ แต่ตอนนี้มีแต่น้ำ”

โดย-พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์