ร้องชลประทานชดใช้ปล่อยน้ำท่วมนา2.5พันไร่

นายโสภณ เจริญพรหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด นำสื่อมวลชนติดตามตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนเข้ากลุ่มไลน์ข่าวผู้สื่อข่าวกลุ่ม อ.สุวรรณภูมิ ว่า ได้นำเสนอข่าวกรณีเกิดน้ำท่วมขังนาข้าวบริเวณลำพลับพลา ในพื้นที่ 8 หมู่บ้าน คือ หมู่ที่ 1,2,3,4,5,10,13,15 ตำบลทุ่งหลวง อำเภอสุวรรณภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ส่งผลให้ราษฎรได้รับผลกระทบท่วมนาข้าวที่กำลังใกล้ได้เก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับผลกระทบประมาณ 2,500 ไร่ 
 นายชยันต์ ศิริมาศ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด จึงมอบหมาย นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด ลงพื้นที่ตรวจติดตามการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังนาข้าวร่วมกับผู้นำท้องที่ท้องถิ่น สื่อมวลชน ดำเนินการสำรวจข้อเท็จจริง จากนายชิตชน พันธู์แสงทอง หน.ช่างควบคุมงานก่อสร้าง สนง.ชลประทานร้อยเอ็ด นำตรวจสอบสถานการณ์น้ำ ทราบว่าเกิดจากการเร่งดำเนินการระบบฝายระบายน้ำในลำพลับพลา จำนวน 5 ประตูที่ดำเนินการมาแล้ว 9 เดือน ต้องเสร็จ จึงเร่งดำเนินการและยกระดับคันดินกั้นจุดทำงานเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าจุดทำงาน จึงท่วมพื้นที่ทางตอนบน ท่วมนาข้าวของชาาวบ้าน หลังจากเกิดปัญหาได้เร่งแก้ไขด้วยการวางท่อขนาดใหญ่ 2 แถว เพื่อเร่งระบายน้ำออก แต่แรงดันน้ำ ได้กัดพนังขาด เอ่อลงทางตอนล่าง ซึ่งคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติภายในเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ 

ในขณะที่แกนนำชุมชนนางสาววิภาวรรณ สุระสังข์ กล่าวว่า แม้น้ำจะลดทางตอนบน พนังที่ขาดก็จะลงไปท่วมนาข้าวทางตอนล่าง ซึ่งเข้าท่วมนาข้าวที่เต็มรวงพร้อมเกี่ยวของชาวนาได้รับความเสียหายแทบจะเต็มร้อยเปอร์เซนต์แม้น้ำจะลดลงแต่ก็ไม่ลดลงทันทีจากนาข้าว ซึ่งยังไงก็เสียหายทั้งหมด และการเก็บเกี่ยวก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะชาวนาทำข้าวแบบนาแปลงใหญ่ที่ต้องใช้รถเกี่ยว และนาน้ำท่วมรถเกี่ยวลงเกี่ยวไม่ได้ ถือว่าจะเป็นความเสียหายที่เรียกว่าทั้งหมดดังนั้นสิ่งที่ต้องการคือให้หน่วยงานของผู้ที่สรา้งความเสียหายให้กับนาข้าวของชาวบ้านต้องมารับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับชาวนา ตามข้อเท็จริง ในปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมนาข้าวที่กำลังรอการเก็บเกี่ยวตามแนวลำพลับพลาทั้งหมด ประมาณ 2,500 ไร่
นายโสภณ เจริญพร หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่าจากการลงตรวจสอบพบว่าน้ำท่วมด้วยสาเหตุเนื่องมาจากมีการก่อสร้างฝายน้ำล้น โดยโครงการชลประทานร้อยเอ็ดที่ดำเนินการสร้างคันป้องกันน้ำไหลเข้าบริเวณเขตก่อสร้าง ประกอบกับพื้นที่ดังกล่าวเกิดฝนตกติดต่อกันและรับน้ำจากการระบายน้ำในพื้นที่อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม ทำให้น้ำสะสมนอกพื้นที่ไหลเข้ามาท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวนาบริเวณดังกล่าวในปริมาณที่มาก จะนำเสนอข้อเท็จจริงไปยัง ผวจ.ร้อยเอ็ด พิจารณณาแนวทางการแก้ไขปัญหา ว่าหากผลเกิดจากโครงการชลประทานร้อยเอ็ดก็เป็นเรื่องที่ผจว.จะเป็นผู้พิจารณณาสั่งการให้ว่า เจ้าของโครงการเร่งดำเนินการเร่งระบายน้ำและพร่องน้ำไหลลงลำน้ำมูล คาดว่าจะสามารถระบายน้ำได้ ภายใน 5-7 วัน เมื่อสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติ

สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และสำนักงานเกษตรอำเภอ ที่ทำการปกครองอำเภอ เร่งรัดติดตามการดำเนินการสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ แก้ไขปัญหา ซึ่งปัญหาส่วนนี้จะต้องพิจารณณาตรวจสอบอีกครั้งว่าเป็นคามผิดพลาดของชลประทานว่าทำงานล่าช้า จนเกินเวลาที่กำหนด และความผิดพลาดหากเกิดจากชลประทาน หรือผู้รับเหมาทำงานล่าช้า ก็มีส่วนที่จะต้องรับผิดชอบชดใช้ ซึ่งในช่วงการพิจารณณาข้อเท็จจริง ว่าเป็นเรื่องที่ ชป.และผู้รับเหมาจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ จะแก้ปัญหาด้วยการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น โดยจะให้ใช้ พรบ.50 ให้ท้องถิ่นดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นก่อน หากงบปรมาณไม่เพียงพอหรือเหนือบ่ากว่าแรง ไม่สามารถช่วยเหลือได้เต็มพื้นที่ซึ่งผวจ.ร้อยเอ็ดก็มีอำนาจในการสั่งจ่ายเงินตามอำนาจของ ผวจ.เข้ามาแก้ไปปัญหาให้ก่อนต่อไป