จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ใน จ.ขอนแก่น ที่พบว่ายังมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในคลัสเตอร์แรงงานในโรงงานหลายแห่งนั้น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ติดเชื้อพบว่าเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นใน 2 อำเภอ คือ อ.น้ำพอง และ อ.มัญจาคีรี แต่ที่น่าเป็นห่วง กระทั่งที่ประชุมมีมติร่วมกันให้ออกคำสั่งเด็ดขาด คือในคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมที่กำลังระบาดใน อ.เมือง ทั้งโรงงานแหอวน และ กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์ ที่กำหนดมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล อย่างเข้มงวด ห้ามคนเข้าและออกเด็ดขาด โดยคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วย เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา กักตัว และห้ามคนเข้า-ออก จากเขตโรงงานอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับที่ เรือนจำ อ.พล ที่พบการระบาดของกลุ่มผู้ต้องขังที่ กรมราชทัณฑ์ได้ยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวดแล้ว
สำหรับคำสั่งจังหวัดขอนแก่น เรื่อง สั่งห้ามบุคคลเข้า-ออก โรงงานที่มีความเสี่ยงต่อไวรัสโควิด -19 เป็นการชั่วคราว เพื่อยับยั้งและป้องกันการระบาดแบบคลัสเตอร์ เนื่องจากพบว่า พนักงานโรงอวนเดชา บ้านสำราญ ถนนมิตรภาพ ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ติดเชื้อมาตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2564 และมีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น จากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อพบว่ามีพนักงานบางส่วนเดินทางไปกลับระหว่างที่พักกับโรงงาน จึงทำให้ยากต่อการควบคุม ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ออกไปสู่ชุมชนหรือพื้นที่อื่น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกัน จังหวัดจึงมีคำสั่งห้ามบุคคลข้า-ออกโรงอวนเดชา เป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 20 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2564 เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่รับผิดชอบ หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือตามมาตรา 52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ขอนแก่นอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่จับตาและเฝ้าระวังของ ศบค. จากการพบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ โรงงานอุตสาหกรรม แรงงานชาวต่างชาติ เรือนจำ และ ตลาดสด รวมไปถึงเขตชุมชน โรงงานอุตสาหกรรมต้องปิดตัวชั่วคราว ส่วนคลัสเตอร์ตลาดสด งานบุญประเพณี และย่านชุมชน ถูกจำกัดการจัดกิจกรรมหรือการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยคณะทำงานจะลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการป้องกันและควบคุมทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการพิจารณาอนุมัติจัดตั้งฮอตพิเทล เพิ่มขึ้นอีก 9 แห่งทั้งจังหวัด รองรับผู้ป่วยในกลุ่มระดับสีเขียวหรือการประเมินอาการของทีมแพทย์ได้อีกกว่า 1,000 เตียง”นายสมศักดิ์ กล่าว
ขณะที่การฉีดวัคซีนนั้น ทางจังหวัดตั้งเป้าครอบคลุมให้ได้ร้อยละ 70 เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศตามที่รัฐบาลกำหนด ในวันที่ 1 พ.ย. 64 นี้ ทุกมาตรการควบคุม ป้องกันและรักษาจะต้องดำเนินการแบบคู่ขนานกับการตรวจเชิงรุก การปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย
โดย-กวินทรา ใจซื่อ