svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

คุมเข้มแรงงานออกคำสั่งเด็ดขาดควบคุมเข้า-ออกโรงงานหวั่นแพร่โควิด-19

21 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ออกคำสั่งห้ามคลัสเตอร์โรงงานแหอวน-แรงงานชาวเมียนมาร์และเรือนจำ สั่งห้ามคนเข้า-ออก บังคับใช้มาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล ฝ่าฝืนจับปรับจริงตามข้อกฎหมายทุกข้อ ตั้งเป้าวัคซีนร้อยละ 70 พร้อมเปิดจังหวัด

จากสถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ใน จ.ขอนแก่น ที่พบว่ายังมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะในคลัสเตอร์แรงงานในโรงงานหลายแห่งนั้น   นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น  พร้อมด้วย นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น ประชุมร่วมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

นายสมศักดิ์  กล่าวว่า   กลุ่มผู้ติดเชื้อพบว่าเป็นกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่เกิดขึ้นใน 2  อำเภอ คือ อ.น้ำพอง และ อ.มัญจาคีรี    แต่ที่น่าเป็นห่วง กระทั่งที่ประชุมมีมติร่วมกันให้ออกคำสั่งเด็ดขาด  คือในคลัสเตอร์โรงงานอุตสาหกรรมที่กำลังระบาดใน อ.เมือง ทั้งโรงงานแหอวน และ กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาร์  ที่กำหนดมาตรการบับเบิ้ลแอนด์ซีล อย่างเข้มงวด ห้ามคนเข้าและออกเด็ดขาด โดยคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจคัดกรองเชิงรุกแยกกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วย เข้าสู่ขั้นตอนการรักษา กักตัว และห้ามคนเข้า-ออก จากเขตโรงงานอย่างเด็ดขาด เช่นเดียวกันกับที่ เรือนจำ อ.พล ที่พบการระบาดของกลุ่มผู้ต้องขังที่ กรมราชทัณฑ์ได้ยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันอย่างเข้มงวดแล้ว

คุมเข้มแรงงานออกคำสั่งเด็ดขาดควบคุมเข้า-ออกโรงงานหวั่นแพร่โควิด-19
 

สำหรับคำสั่งจังหวัดขอนแก่น เรื่อง สั่งห้ามบุคคลเข้า-ออก โรงงานที่มีความเสี่ยงต่อไวรัสโควิด -19 เป็นการชั่วคราว  เพื่อยับยั้งและป้องกันการระบาดแบบคลัสเตอร์  เนื่องจากพบว่า  พนักงานโรงอวนเดชา บ้านสำราญ ถนนมิตรภาพ  ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น  ติดเชื้อมาตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2564  และมีปริมาณผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น  จากการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อพบว่ามีพนักงานบางส่วนเดินทางไปกลับระหว่างที่พักกับโรงงาน จึงทำให้ยากต่อการควบคุม  ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ออกไปสู่ชุมชนหรือพื้นที่อื่น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการควบคุมและป้องกัน จังหวัดจึงมีคำสั่งห้ามบุคคลข้า-ออกโรงอวนเดชา   เป็นการชั่วคราวตั้งแต่ 20 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2564  เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่รับผิดชอบ  หากพบว่ามีการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด  การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2558  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือตามมาตรา  52  ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

คุมเข้มแรงงานออกคำสั่งเด็ดขาดควบคุมเข้า-ออกโรงงานหวั่นแพร่โควิด-19

“ขอนแก่นอยู่ในกลุ่มจังหวัดที่จับตาและเฝ้าระวังของ ศบค. จากการพบผู้ป่วยรายใหม่ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคลัสเตอร์ โรงงานอุตสาหกรรม แรงงานชาวต่างชาติ เรือนจำ และ ตลาดสด รวมไปถึงเขตชุมชน โรงงานอุตสาหกรรมต้องปิดตัวชั่วคราว  ส่วนคลัสเตอร์ตลาดสด งานบุญประเพณี และย่านชุมชน ถูกจำกัดการจัดกิจกรรมหรือการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยคณะทำงานจะลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรการป้องกันและควบคุมทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการระบาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังได้มีการพิจารณาอนุมัติจัดตั้งฮอตพิเทล เพิ่มขึ้นอีก 9 แห่งทั้งจังหวัด รองรับผู้ป่วยในกลุ่มระดับสีเขียวหรือการประเมินอาการของทีมแพทย์ได้อีกกว่า 1,000 เตียง”นายสมศักดิ์ กล่าว

ขณะที่การฉีดวัคซีนนั้น ทางจังหวัดตั้งเป้าครอบคลุมให้ได้ร้อยละ 70 เตรียมพร้อมสำหรับการเปิดประเทศตามที่รัฐบาลกำหนด ในวันที่ 1 พ.ย.  64 นี้  ทุกมาตรการควบคุม ป้องกันและรักษาจะต้องดำเนินการแบบคู่ขนานกับการตรวจเชิงรุก  การปฎิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมาย     

โดย-กวินทรา  ใจซื่อ

คุมเข้มแรงงานออกคำสั่งเด็ดขาดควบคุมเข้า-ออกโรงงานหวั่นแพร่โควิด-19
 

logoline